วันเสาร์, 14 ธันวาคม 2567

ต่ออายุมาตรการเร่งด่วนเพื่อบรรเทาผลกระทบต่อประชาชนจากสถานการณ์พลังงาน ลดก๊าซ LPG

ต่ออายุมาตรการเร่งด่วนเพื่อบรรเทาผลกระทบต่อประชาชนจากสถานการณ์พลังงาน ลดก๊าซ LPG สำหรับหาบเร่ แผงลอย – ลดก๊าซหุงต้มสำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ – อุดหนุนราคาขายปลีกน้ำมันดีเซล – ขยายมาตรการช่วยเหลือค่าไฟฟ้ากลุ่มเปราะบาง ถึงสิ้นปีนี้

วันที่ 13 กันยายน 2565 นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงมติคณะรัฐมนตรี เห็นชอบมาตรการเร่งด่วนด้านพลังงานเพื่อบรรเทาผลกระทบต่อประชาชนจากสถานการณ์พลังงานไปจนถึงเดือนธันวาคม 2565 ประกอบด้วย การขยายมาตรการที่กำลังจะสิ้นสุดลงในเดือนกันยายน 2565 รวมทั้งมาตรการบรรเทาผลกระทบด้านไฟฟ้าสำหรับบ้านที่อยู่อาศัยที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 500 หน่วย/เดือน ซึ่งเป็นกลุ่มเปราะบางที่ได้รับผลกระทบจากการเพิ่มขึ้นของค่า Ft รายละเอียด ดังนี้ 

การขยายมาตรการไปถึงเดือนธันวาคม 2565 
1.  มาตรการช่วยเหลือด้านราคาก๊าซ LPG ประกอบด้วย
ขยายระยะเวลาส่วนลดราคาก๊าซ LPG แก่ร้านค้า หาบเร่ แผงลอยอาหารที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ไม่เกิน 100 บาท/ราย/เดือน และส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้มแก่ผู้มีรายได้น้อยผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จาก 45 บาท/คน/ 3 เดือน เพิ่มขึ้นอีก 55 บาท/คน/ 3 เดือน รวมเป็น 100 บาท/คน/ 3 เดือน ตั้งแต่เดือนตุลาคม – ธันวาคม 2565  คาดว่าจะมีผู้ใช้สิทธิลดค่าซื้อก๊าซหุงต้มประมาณ 5.5  ล้านราย  งบประมาณประมาณ 302.5 ล้านบาท

2. มาตรการบริหารราคาน้ำมันดีเชล   คงอุดหนุนราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลโดยใช้กลไกกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ช่วงเดือนตุลาคม –  ธันวาคม 2565  เพื่อบริหารจัดการราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม

สำหรับ มาตรการบรรเทาผลกระทบด้านไฟฟ้า เพื่อบรรเทาผลกระทบต่อประชาชน โดยการช่วยเหลือค่าไฟฟ้าของกลุ่มผู้ใช้ไฟฟ้าบ้านอยู่อาศัยที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 500 หน่วยต่อเดือน เป็นเวลา 4  เดือน ตั้งแต่ค่าไฟฟ้าประจำเดือนกันยายน  –  ธันวาคม 2565 ดังนี้
(1) กลุ่มผู้ใช้ไฟฟ้าบ้านอยู่อาศัยที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 300 หน่วย/เดือน ซึ่งเป็นกลุ่มเปราะบาง ให้ส่วนลดค่า Ft จำนวน 92.04 สตางค์/หน่วย 
(2) กลุ่มผู้ใช้ไฟฟ้าบ้านอยู่อาศัยที่ใช้ไฟฟ้าระหว่าง 301 – 350 หน่วย/เดือน ซึ่งเป็นคนชั้นกลาง ให้ส่วนลดจากการเพิ่มขึ้นของค่า Ft ร้อยละ 75  จำนวน 51.50 สตางค์/หน่วย
(3) กลุ่มผู้ใช้ไฟฟ้าระหว่าง 351 – 400 หน่วย ให้ส่วนลดค่า Ft ร้อยละ 45 คือ จำนวน 30.90 สตางค์ต่อหน่วย/เดือน 
(4)  ผู้ใช้ไฟฟ้าระหว่าง 401 – 500 หน่วย ให้ส่วนลดค่า Ft ร้อยละ 15 คือ จำนวน 10.30 สตางค์/หน่วย  คาดว่า จะใช้งบประมาณ 9,128.41 ล้่านบาท 

“มาตรการบรรเทาผลกระทบหลายมาตรการจสิ้นสุดลงในเดือนกันยายน นี้ ในขณะที่ แนวโน้มสถานการณ์ที่ราคาพลังงาน ทั้งน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ ยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งส่งผลกระทบต่อต้นทุนการผลิต ราคาค่าไฟฟ้า รัฐบาลจึงตั้งใจจะช่วยบรรเทาภาระค่าครองชีพของประชาชนทั่วไปและประชาชนที่มีรายได้น้อยอย่างต่อเนื่อง และผลกระทบต่อภาคอุตสาหกรรมด้วย” นายอนุชา กล่าว

ผู้สนับสนุนแพลตฟอร์มข่าว-0628929797 DasKLf.jpg 8JER4J.jpg Da2r0R.png DpkFp1.jpg banner1-08.gif Dp1Qd0.png 2wk8Dt.jpg 2wcwIv.jpg


เรื่องที่เกี่ยวข้อง
สวนสมุนไพรบ้านหมอละออง GREEN HOUSE ก้าวสู่ความมุ่งมั่นอุตสาหกรรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและความเป็นอยู่ที่ยั่งยืน
สสว.จับมือมูลนิธิเอเชียและพันธมิตร เปิดตัว “คู่มือปฏิบัติ ESG สำหรับ SMEs ไทย สู่โอกาสในตลาดโลกสีเขียว” 
เปิดมุมมอง 7 กูรู ดูโอกาสและอุปสรรคสื่อไทยปี 2568
ทราวิซโก ชี้แจงข้อเท็จจริง พร้อมแสดงความมุ่งมั่น ในการคืนเงินให้ลูกค้าที่เหลือโดยเร็วที่สุด
ศูนย์การค้าเซ็นทรัล ขอนแก่น เปิดไฟต้นคริสต์มาส “The World Great Celebration 2025” กระตุ้นการท่องเที่ยวช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่       
ไฟเซอร์ ประเทศไทย รับรางวัล AMCHAM Corporate Social Impact Awards 2024 ต่อเนื่องปีที่ 12