ผู้ว่าฯขอนแก่น ขันนอต กฟภ.,เจ้าของสายสัญญาณและสายเคเบิ้ล ทั้งจังหวัด ปล่อยสายหย่อนหรือตกลงถนน เอาผิดตามข้อกฎหมายทันที หลังเกิดเหตุสายสัญญาณขาดเกี่ยวคนขับ จยย.เสียหลักได้รับบาดเจ็บ ขณะที่สายสัญญาณที่ก่อเหตุรู้แล้วว่าเป็นของใคร สั่งฝ่ายกฎหมายดำเนินการอย่างเข้มงวด ไม่มีละเว้น
เมื่อเวลา 08.30 น.วันที่ 23 ก.พ.2565 นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผวจ.ขอนแก่น เปิดเผยว่า การจัดการสายไฟฟ้า สายสัญญาณ รวมทั้งสายเคเบิ้ลต่างๆ เป็นสิ่งที่ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ได้เน้นย้ำในการบริหารจัดการที่ถูกต้องและปลอดภัยภาพรวมทั้งประเทศ ซึ่งขอนแก่นเกิดเหตุการณ์จนก่อให้เกิดการสูญเสียมาแล้วเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา ดังนั้นเมื่อมีเหตุการณ์เกิดขึ้นล่าสุด ด้วยการที่มีสายสัญญาณห้อยตกลงมาและมีผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ขับผ่านและถูกสายรัดคอ ซึ่งแม้จะไม่เกิดการสูญเสีย แต่ก็ทำให้ผู้ใช้รถใช้ถนนนั้นได้รับบาดเจ็บ จึงได้มีคำสั่งและมอบหมายให้ รอง ผวจ.ขอนแก่น ประชุมร่วม กสทช.,การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค,และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและรับผิดชอบกับสายไฟฟ้า,สายเคเบิ้ล รวมทั้งสายสัญญาณต่างๆ มาหารือกันในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเจ้าของสายสัญญาณทุกเจ้าที่ลากสายพาดผ่านถนนที่จะต้องกำหนดแผนการแก้ไขสถานการณ์ รวมทั้งการเพิ่มความรัดกุมในการติดตั้ง เพื่อป้องกันการเกิดเหตุการณ์หรือป้องกันไม่ให้สายสัญญาณต่างๆนั้นตกลงมาอีก ส่วนสายสัญญาณที่ก่อเหตุล่าสุดนั้นรู้แล้วว่าเป็นของบริษัทฯใด
“อีกทั้งในระยะนี้มีพายุฤดูร้อนพาดผ่านเขต จ.ขอนแก่น ซึ่งอาจจะทำให้สายไฟ สายเคเบิ้ล รวมทั้งสายสัญญาณต่างๆนั้นอาจที่จะชำรุดเสียหายหรือตกลงมาได้ หรือแม้กระทั่งจะหย่อนลงมาจากเสา ทั้งหมดก็จะต้องตรวจสอบและเร่งแก้ไข ซึ่งก็ยอมรับว่าเจ้าหน้าที่อาจจะไม่สามารถที่จะตรวจสอบได้ทันหรือตรวจสอบได้ครบในทุกจุดทั้งจังหวัด จึงขอความร่วมมือประชาชนในการช่วยเป็นหูเป็นตาช่วยสอดส่องและตรวจสอบ หากตรวจพบสายไฟ หรือสายสัญญาณต่างๆหย่อนตกลงมาขอให้รับแจ้งมายังเจ้าหน้าที่ได้เข้าไปทำการตรวจสอบและแก้ไขทันที”
ผวจ.ขอนแก่น กล่าวต่ออีกว่า จังหวัดได้มอบฝ่ายกฎหมายให้ตรวจสอบชัดเจนว่า กรณีที่เกิดขึ้นนี้เจ้าของสายสัญญาณเคเบิ้ล หรือสายสัญญาณต่างๆ ที่ปล่อยปละละเลยจะมีความผิดในกฎหมายข้อใดบ้าง และจะสามารถเอาผิดในสถานหนักที่สุดอย่างไร ตามข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องและข้อกฎหมายต่างๆที่กำหนดไว้ เพื่อเอาผิดกับเจ้าของสายสัญญาณที่กระทำการโดยประมาทหรือปล่อยปะละเลย เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ในลักษณะดังกล่าวจนก่อให้เกิดอันตรายกับผู้ใช้รถใช้ถนน หรือผู้ที่สัญจรผ่านในจุดที่มีสายสัญญาณต่างๆพาดผ่าน อย่างเข้มงวดครอบคลุมทั้งจังหวัด
