เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 27 เม.ย.64 พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช รอง ผบช.ก. ในฐานะรองหัวหน้าศูนย์ปราบปรามผู้มีอิทธิพล มือปืนรับจ้าง และผู้ร้ายสำคัญ (ศปอร.ตร.) สั่งการให้ พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม ผบก.ป., พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.วิวัฒน์ จิตรโสภากุล ผกก.3 บก.ป. นำกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่ บก.สส.บช.ภ. 4 และ สภ.เมืองร้อยเอ็ด จับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดร้อยเอ็ด นายพัฒน์ (นามสมมติ) อายุ 19 ปี ผู้ต้องหาจี้ชิงทรัพย์ร้านทอง พร้อมของกลางสร้อยคอทองคำ 7 เส้น พร้อมชุดที่ใส่ในวันที่ก่อเหตุ กางเกงวอร์มสีดำ เสื้อยืดสีดำ เสื้อคลุมสีขาว จับได้ที่หน้าอพาร์ตเมนต์ ในพื้นที่ ต.ในเมือง อ.เมืองจ.นครราชสีมา

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 24 เม.ย.ที่ผ่านมา ได้มีคนร้ายสวมรองเท้าแตะบุกเดี่ยวใช้มีดเข้าไปจี้ชิงทรัพย์ในร้านทองเฮงดี ต.ในเมือง อ.เมืองร้อยเอ็ด ได้ทองรูปพรรณไป จำนวน 10 เส้น น้ำหนัก 11 บาท แล้วขึ้นรถจักรยานยนต์ที่จอดไว้ขี่หลบหนีไป หลังเกิดเหตุ พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย รอง ผบก.ป. พร้อม พ.ต.อ.วิวัฒน์ จิตรโสภากุล ผกก.3 บก.ป. นำทีมลงพื้นที่สืบสวนหาตัวคนร้ายร่วมกับตำรวจพื้นที่

พล.ต.ต.ไพโรจน์ มังคะลา ผบก.ภจว.ร้อยเอ็ด เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุได้ส่งชุดสืบสวนสภ.เมืองร้อยเอ็ดลงพื้นที่หาข่าวและตรวจสอบกล้องวงจรปิดเพื่อหาเบาะแสคนร้ายจนทราบว่าหลังก่อเหตุผู้ต้องหาได้หลบหนีมากบดานอยู่ที่ จ.นครราชสีมา จึงนำกำลังเข้าจับกุมตัวได้ดังกล่าว และได้ฝากถึงร้านทอง ที่ไม่มีการป้องกัน ตนเองเพียงพอด้านความปลอดภัย โดยคิดเพียงแต่ว่ามีประกัน แต่ลืมนึกถึงการป้องกันทำลูกกรงเพื่อความปลอดภัย จนคนร้าย สามรถกระโดดข้ามตู้เข้าไปชิงทอง ซึ่งหากมีอาวุธร้ายแรง ก็เป็นอันตรายที่อาจจะเกิดความสูญเสียขึ้นได้
ส่วนทางด้าน พ.ต.อ.ศิรสัณห์ เยื้อนสงวนชัย รอง ผบก.กล่าวว่า จากเหตุที่เกิดขึ้น ได้กำชับเจ้าหน้าที่ตำรวจทำงานด้านการตรวจเข้มเฝ้าระวังเหตุ ร้านทอง -สถานบริการ-ร้านค้า และสถาบันที่เกี่ยวข้องกับการเงิน ให้เข้มข้นมากขึ้น และประสานให้ ร้ายสุ่มเสี่ยงทุกแห่ง ได้ปรับแผนการเฝ้าระวังป้องกันตนเองให้รัดกุมมากยิ่งขึ้น เช่นการติดสัญญาณเตือนภัย เชื่องโยงไปยังสถานีตำรวจ ทำลูกกรงป้องกันตนเอง และให้ติดตั้งกล้องวงจรปิด เพื่อหลังเกิดเหตุ จะได้มีพยานหลักฐานพยานตัวตนผู้ก่อเหตุ ที่จะช่วยให้จับกุมคนร้ายได้อย่างรวดเร็ว โดยได้ทรัพย์สินที่เสียหายคืนได้เช่นนรายนี้เป็นต้น

จากการสอบสวนผู้ต้องหาวัย 19 ปีรายนี้ ให้การรับสารภาพเป็นผู้ก่อเหตุจริง เพราะติดพนันบาคาร่าออนไลน์ ช่วงเกิดเหตุเป็นช่วงโรงเรียนปิดเทอม โดยผู้ก่อเหตุเรียนใน จ.นครราชสีมา จึงได้ไปหาแม่ที่ จ.ร้อยเอ็ด ก่อนจะตัดสินใจลงมือก่อเหตุลงไป โดยต้องการหาเงินไปใช้หนี้พนันและเล่นพนันออนไลน์ต่อ หลังได้ทองมาแล้วนำทองไปขาย 3 เส้น ได้เงินจำนวน 90,000 บาท ที่ร้านทองในตัวเมืองโคราช เพื่อนำไปใช้หนี้พนันออนไลน์ และใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ก่อนนำตัวส่ง สภ.เมืองร้อยเอ็ด ดำเนินคดีต่อไป.
ทางด้านนางวิรัตน์ เจ้าของ ร้านทอง ยังได้ขอพูดคุยกับผู้ต้องหา เพราะเห็นว่าเป็นเด็กหนุ่มที่มีอนาคตไม่น่าจะหลงผิด มาเป็นโจร ได้ให้การอบรมสั่งสอนว่าเป็นเด็กที่มีอนาคตไกลไม่น่าที่จะมาทำอะไรแบบนี้น่าจะคิดไตร่ตรองให้ดีเสียก่อน และรับคำขอโทษจากผู้ต้องหา รวมถึงยังบอกกล่าวสั่งสอนว่าออกมาจากคุกแล้วขอให้เป็นคนดีต่อสังคม อย่าคิดที่จะทำอะไรแบบนี้อีก.
/////////////////////////
โชติกา ทวนชัยภูมิ/ภาพ/ข่าว
0956628047