วันอังคาร, 10 ธันวาคม 2567

กฟผ. ห่วงใยพี่น้องประชาชนตามแนวตะเข็บชายแดนพื้นที่เสี่ยงจังหวัดเลย มอบอุปกรณ์การแพทย์ป้องกัน COVID-19

กฟผ. ห่วงใยพี่น้องประชาชนตามแนวตะเข็บชายแดนพื้นที่เสี่ยงจังหวัดเลย มอบอุปกรณ์การแพทย์ป้องกัน COVID-19 ให้โรงพยาบาล สสจ. เดินหน้าพัฒนาระบบไฟฟ้าให้มั่นคง เสริมจังหวัดเลยเมืองแห่งการท่องเที่ยว การค้าและการลงทุนอย่างยั่งยืน

            เมื่อวันที่ 3 เมษายน 2564 เวลา 14.63 น.ที่ผ่านมา ณ จวนผู้ว่าราชการจังหวัดเลย นายชัยธวัช เนียมศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย ได้รับมอบอุปกรณ์และเครื่องมือทางการแพทย์ เพื่อสนับสนุนการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) สำหรับใช้ในโรงพยาบาลเลย โรงพยาบาลท่าลี่ และสาธารณสุขจังหวัดเลย จาก ดร.จิราพร ศิริคำ รองผู้ว่าการยุทธศาสตร์ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และคณะ โดยได้รับเกียรติจากนายพัฒนา แสงศรีโรจน์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานร่วมในพิธี  ในเวลาต่อมาผู้ว่าราชการจังหวัดเลย และคณะผู้บริหาร กฟผ. ได้ร่วมหารือประเด็นความมั่นคงระบบไฟฟ้าและทิศทางการพัฒนาระบบไฟฟ้าของจังหวัดเลยและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รวมถึงทิศทางความร่วมมือระหว่างจังหวัดเลย และ กฟผ. ในอนาคต นายชัยธวัช เนียมศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย ได้กล่าวทางคณะผู้บริหาร กฟผ.ว่า จังหวัดเลยมียุทธศาสตร์ที่จะทำให้จังหวัดเป็นเมืองน่าอยู่ เมืองแห่งการท่องเที่ยว การค้าและการลงทุน ภายใต้การพัฒนาที่ยั่งยืน จึงให้ความสำคัญกับการทำให้ประชาชนอยู่ดีมีสุข มีสุขภาพที่แข็งแรง การยกระดับการบริการด้านสาธารณสุขและสุขภาพของประชาชนจึงเป็นเรื่องที่ต้องตระหนักและดำเนินการอย่างจริงจัง ต้องขอขอบคุณ กฟผ. ที่ร่วมสนับสนุนอุปกรณ์และเครื่องมือทางการแพทย์ให้แก่โรงพยาบาลจังหวัดเลยในครั้งนี้ ซึ่งที่ผ่านมาจังหวัดเลย ได้กำหนดมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของ COVID-19 อย่างเคร่งครัด โดยมีโรงพยาบาลเลยเป็นสถานบริการสุขภาพที่ให้การรับรองการส่งต่อผู้ป่วยกลุ่มโรคต่าง ๆ จากโรงพยาบาลระดับอําเภอ และสถานบริการสุขภาพอื่น ๆ ซึ่งเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่มามอบนี้ จะมีประโยชน์อย่างยิ่งต่อการใช้เฝ้าระวังและตรวจรักษาประชาชน นอกจากนี้ ในเรื่องของการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ เพื่อให้จังหวัดเลยเป็นเมืองแห่งการท่องเที่ยว และเป็นเมืองแห่งการค้าและการลงทุนได้ในอนาคตอย่างยั่งยืน ความมั่นคงทางพลังงาน ถือเป็นปัจจัยหลักที่สำคัญ กฟผ. ดูแลเรื่องการผลิตและส่งจ่ายไฟฟ้าได้เป็นอย่างดี ทำให้จังหวัดเลยมีความพร้อมในการรองรับนักท่องเที่ยว และนักลงทุนในภาคการผลิตและบริการต่าง ๆ ในกลุ่มอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง ซึ่งกำลังพัฒนาและขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะส่งผลดีต่อการฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศโดยรวม

        ทางด้าน ดร.จิราพร ศิริคำ รองผู้ว่าการยุทธศาสตร์ กฟผ. ได้เปิดเผยว่า จังหวัดเลย และ กฟผ. ดำเนินการพัฒนาเศรษฐกิจและประเทศ ตามนโยบายของรัฐบาลซึ่งคำนึงถึงความอยู่ดีมีสุขของประชาชนและการเติบโตของประเทศเป็นหลักในเรื่องการรักษาความมั่นคงระบบไฟฟ้าของจังหวัดเลย และพื้นที่ใกล้เคียงในภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันได้ดำเนินโครงการพัฒนาระบบส่งไฟฟ้าบริเวณจังหวัดเลย หนองบัวลำภู และขอนแก่น เพื่อรองรับไฟฟ้าจากโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำเขื่อนไชยะบุรี ของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว โดยกำลังดำเนินการก่อสร้างสถานีไฟฟ้าแรงสูงท่าลี่ ซึ่งนำระบบ Gas insulated Substation หรือ GIS เป็นเทคโนโลยีสถานีไฟฟ้ารูปแบบใหม่เข้ามาใช้งาน ทำให้ระบบควบคุมและส่งจ่ายไฟฟ้ามีความปลอดภัยและทันสมัยมากขึ้น โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จ และสามารถส่งจ่ายกระแสไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ได้ภายในเดือนพฤษภาคม 2564 จะช่วยเสริมความมั่นคงและความเชื่อถือได้ของระบบส่งไฟฟ้าของจังหวัดเลยและภาคอิสาน ซึ่งจะทำให้จังหวัดเลยเป็นเมืองแห่งการท่องเที่ยว เมืองแห่งการค้าและการลงทุนได้อย่างยั่งยืนในอนาคต ทั้งยังรองรับการขยายตัวของภาคอุตสาหกรรม การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน รวมทั้งยังสามารถส่งต่อพลังงานไฟฟ้าที่เหลือเข้าสู่ระบบไฟฟ้า เพื่อส่งจ่ายไปยังภาคกลางได้อีกด้วย

ทั้งนี้ สำหรับอุปกรณ์และเครื่องมือทางการแพทย์ที่มามอบในครั้งนี้ ประกอบด้วย ตู้เก็บสิ่งส่งตรวจความดันบวก จำนวน 5 ตู้ ตู้เก็บสิ่งส่งตรวจความดันลบ จำนวน 2 ตู้ หน้ากากชนิด KN 95 จำนวน 1,500 ชิ้น หน้ากากอนามัย จำนวน 400 กล่อง ถุงมือยาง จำนวน 120 กล่อง หมวกผ่าตัด จำนวน 5,000 ใบ ชุดกาวน์กันน้ำ จำนวน 1,200 ชุด เสากดเจลแอลกอฮอล์แบบเท้าเหยียบ จำนวน 55 ชุด เจลอนามัยน้ำใจ กฟผ. 460 ลิตร สเปรย์แอลกอฮอล์น้ำใจ กฟผ. 130 ลิตร และน้ำดื่มตรา “น้ำใจ กฟผ.” จำนวน 960 ขวด มียอดรวมทั้งสิ้น 11,717 ชิ้น และก่อนหน้านี้ในปี 2563 กฟผ. ได้สบับสนุนงบประมาณสำหรับโรงพยาบาล 100,000 บาท และตู้เก็บสิ่งส่งตรวจความดันลบ จำนวน 1 ตู้ ให้กับโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชด่านซ้าย

          และในวันที่ 4 เมษายน 2564 เวลา 09.30 น ณ ห้องโถงสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเลย นายโสภณ สุวรรณรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเลย พร้อม นพ.สมชาย ชมภูคำ รองนายเเพทย์สาธารณสุขจังหวัดเลย นายอภิชาติ สะบู่แก้ว ผู้ช่วยนายเเพทย์สาธารณสุขจังหวัดเลย ร่วมรับมอบอุปกรณ์และเครื่องมือทางการแพทย์ เพื่อสนับสนุนการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) จากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) มีนายสุทธิชัย จูประเสริฐพร รองผู้ว่าการบริหารฯการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.),ดร.จิราพร ศิริคำ รองผู้ว่าการยุทธศาสตร์ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) นายพัฒนา แสงศรีโรจน์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานร่วมในพิธี 

โดยมีรายการอุปกรณ์ทางการเเพทย์ ที่ กฟผ. บริจาค ดังนี้

– ที่กดแอลกอฮอล์เจล แบบใช้เท้าเหยียบ จำนวน 30 ชุด – หน้ากาก N95 จำนวน 900 ชิ้น- Surgical mask จำนวน 200 กล่อง- ถุงมือยาง จำนวน 80 กล่อง – หมวกผ่าตัด 3000 ชิ้น- ชุดเสื้อกาวน์กันน้ำ 600 ชิ้น- แอลกอฮอล์เจลล้างมือ (ขนาด 5 ลิตร) จำนวน 30 แกลลอน- แอลกอฮอล์เจลล้างมือ (ขนาด 450 มล.) จำนวน 160 ขวด- แอลกอฮอล์สปรย์ (ขนาด 30 มล.) จำนวน 1200 ขวด- แอลกอฮอล์สปรย์ (ขนาด 500 มล.) จำนวน 60 ขวด- ตู้ความดันบวก จำนวน 4 ตู้- ตู้ความดันลบ จำนวน 1 ตู้

          ด้านนายโสภณ สุวรรณรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเลย ได้กล่าวขอบคุณทาง กฟผ.ว่า ในนามของประชาชนชาวจังหวัดเลยต้องขอขอบคุณทาง กฟผ.เป็นอย่างมากที่ห่วงใยพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดเลย วันนี้ได้มามอบอุปกรณ์การแพทย์ป้องกัน COVID-19 ดีใจที่พี่น้องประชาชนจะได้รับการดูแลในการป้องกันฯจากอุปกรณ์เหล่านี้ ผ่านโรงพยาบาลทั้ง 14 โรงพยาบาล ถือว่าเป็นสิ่งที่ดีมากที่สุดในช่วงนี้ทำให้ประชาชชนมั่นในในการใช้ชีวิตประจำวันมากขึ้น

         ด้าน ดร.จิราพร ศิริคำ รองผู้ว่าการยุทธศาสตร์ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ได้กล่าวเสริมว่า เป็นหน้าที่และความรับผิดชอบของ กฟผ.อยู่แล้วที่ ต้องดูแลพี่น้องประชาชนรอบดรงไฟฟ้าและแนวสายส่ง โดยเฉพาะ กฟผ.ฝ่ายปฎิบัติการภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่ได้ดำเนินกิจกรรมทางด้าน CSRมาโดยตลอดอย่างต่อเนื่องได้รับรางวัลหลายรางวัลอีกด้วย วันนี้ กฟผ.ได้มามอบอุปกรณ์การแพทย์ป้องกัน COVID-19 หลายรายการพวกเรามีความห่วงใยพี่น้องประชาชนในพื้นที่ตามแนวชายแดนโดยเฉพาะจังหวัดเลยเป็นพื้นที่มีการสัญจรของพี่น้องชาวลาวที่ต้องมาทำการค้ากับพี่น้องประชาชชนชาวจังหวัดเลย ถือว่าเป็นการเฝ้าระวังป้องกันการระบาดของโรค COVID-19 ได้อีกช่องทางหนึ่งด้วย

        สุดท้าย นพ.สมชาย ชมภูคำ รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเลย ด้านเวชกรรมป้องกัน กล่าวว่า สิ่งของที่มอบนี้จะช่วยให้ประชาชนจังหวัดเลยได้มีเครื่องมือในการป้องกันและรักษาได้พร้อมมากขึ้น ซึ่งจะช่วยให้ประชาชนเลยมีวิถีชีวิตที่ปกติโดยเร็ว และยังสามารถช่วยประเทศเพื่อนบ้านอีกด้วย

ผู้สนับสนุนแพลตฟอร์มข่าวมวลชนไทยนิวส์ข่าวออนไลน์-0628929797 DNk79R.jpg orj1qN.jpg DasKLf.jpg Da2r0R.png DpkFp1.jpg banner1-08.gif