ผู้สื่อข่าวเดินทางลงพื้นที่ อำเภอสุวรรณภูมิเพื่อติดตามข่าวกรณีที่ นางสาวอรสา ไพรพฤกษ์ สาวจังหวัดร้อยเอ็ดซึ่งไปก่อเหตุ จะกระโดดตึกตายที่ที่มหาวิทยาลัยแม่โจ้ จังหวัดเชียงใหม่ โดยอ้างว่ามีปัญหาในครอบครัวกับสามีเพื่อขอความช่วยเหลือจากประชาชนแต่ปรากฏว่าหลังเกิดเหตุมีการโพสต์ Social ออกมาประจานว่า นางสาวอรสา มีพฤติกรรมลวงโลกโดยมีการสร้างสถานการณ์จะฆ่าตัวตายมาแล้วในหลายจังหวัดเพื่อ เพื่อให้คนเกิดความสงสารแล้วขอรับเงินบริจาคเพื่อที่จะเดินทางกลับบ้าน บ้านหนองตอกแป้น หมู่ที่ 11 ตำบลสระคู อำเภอสุวรรณภูมิ ที่จังหวัดร้อยเอ็ด..
และจากการเข้าพบ นายดี ปัจจุโส และ นางเลี้ยง ปัจจุโส อายุเกือบ 90 ปี ตายายของนาง สาวอรสา เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงและพื้นฐานของผู้ก่อเหตุซึ่งถูกกล่าวหาว่าโลก โดยตาและยายเล่าว่า ผู้ก่อเหตุเป็นหลานสาวที่เกิดจากลูกสาวของตนเอง โดยแม่ทำงานรับจ้าง แรงงานอยู่ที่กรุงเทพฯ ส่วนพ่อ แยกทางกัน ตั้งแต่นางสาวอรสายังเด็ก ซึ่งตนเลี้ยงดูมาโดยตลอด หลังจาก พ่อแม่แยกทางกัน และแม่ก็เดินทางลงไปทำงานกรุงเทพต่อ ปล่อยให้ตนเองทั้งคู่ดูแลส่งเสียนางสาวอรสาเรียนหนังสือ โดยแม่ส่งเงินมาให้ เป็นค่าใช้จ่าย ให้กับลูกมาโดยตลอด เพื่อสร้างบ้าน และส่งนางสาวอรสาเรียน แต่ แต่ปรากฏว่านางสาวอรสาไม่ใส่ใจการเรียน แถมมีนิสัยลักเล็กขโมยน้อยในขณะเรียนหนังสือ จนกระทั่งจบประถม 6 ก็ไม่ยอมเรียนต่อ แล้วหนีจากบ้าน ไปอยู่ที่อื่น โดยลำพัง และมีครอบครัวตอนอายุ 14 ปี และคลอดลูกแล้ว ก็แยกทางกับสามี หนีไปอยู่ต่างจังหวัดหลายจังหวัด และไปๆมาๆ แต่พอกลับบ้านมาทุกครั้ง การคุกคาม ข่มขู่ ขอเงินทุกครั้ง
หากไม่ให้ก็หาเรื่องกับทุกคน เคยแม้แต่จะใช้มีดฟัน และขู่ฆ่าตายาย บ่อยครั้งที่ไม่ได้เงิน ก็ลักของทุกอย่างในบ้านไปขาย
โดยยายเล่าว่า นิสัยนี้เป็นตั้งแต่เด็กนักเรียนมาแล้ว ที่ลักแม้แต่จักรยานของเพื่อนไปขาย แต่ไม่มีการเอาเรื่องกัน จนติดเป็นนิสัยทำตัวเหมือนคนเสียสติ และคล้ายติดยา ชอบอาละวาดข่มขู่ขอเงินคนในบ้าน พอไม่ได้ก็ลักทุกอย่างไปขาย สิ่งเห็นสิ่งของมีค่าในบ้านไม่ได้ จะเอาทุกอย่างไปขาย ที่ผ่านมาเลยลักจักยานในบ้านไปขายถึง 6 ครั้ง ขายแล้วก็หนีไปจากบ้าน พอเงินหมดก็กลับมาขอเงิน พอไม่ได้ก็ลักแม้กระทั่งข้าวเปลือกในยุ้งข้าวไปขายจนหมดแล้วก็แล้วกันไป พอเงินหมดก็กลับมา พอกลับมา ตายายก็กลัวว่าจะมาลักจองในบ้านไปขาย แม้จะเก็บของไว้ในห้อง ใส่กุญแจห้อง 2 ดอกก็ยังงัดเอาทีวีและเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านไปขายเพื่อเอาไปเสพยา
และเคยแม้กระทั่งลักวัวที่กำลังตั้งท้อง ที่ตายาย ล่ามไว้ในทุ่งนา จูงไปขายให้กับชาวบ้านในหมู่บ้านข้างเคียง ในราคา 18000 บาท แล้วหลบหนี ซึ่งตายายตามไปทันเอาวัวคืนมาได้ และเรื่องราว ก็ตามไปทันที่สถานีขนส่งได้เงินคืนมาเพียง 17000 บาท จากนั้นก็หายไปนาน แต่กลับมาบ้านทีไรก็มาสร้างความเดือดร้อนให้กับครอบครัวมาโดยตลอด และมีและประวัติ โกหก ต้มตุ๋นหลอกลวง ทั้งคนไทย และ ต่างชาติ มาโดนตลอด จนถูกจับติดคุกมาแล้ว 3 ครั้ง มั้งในภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคเหนือ แม้แต่ฝรั่งก็ยังโดนหลอกเอาเงินและขังฝรั่งไว้ในบ้านแล้วหนีไม่พ้นจนถูกจับดำเนินเคร แต่พออออกมาก็ยังมีนิสัยเดิมๆ จนเอือมระอา จนไม่อยากให้กลับบ้าน และล่าสุดก๋เห็นข่าวว่า ไปหลอกลวง คนที่เชียงใหม่ทำทีว่ามีปัญหาชีวิตจะฆ่าตัวตาย ให้คนสงสารเพื่อขอเงิน ซึ่งเป็นพฤติกรรม ที่ทำมาแล้วหลายครั้ง ดังนั้นตนจึงอยากขอเตือน ทุกคนว่าอย่าหลงเชื่อ และอยากให้แจ้งตำรวจจับ และขังตลอดชีวิตเลย ยิ่งดีจะได้ไม่ต้องทำให้คนเดือดร้อน และที่สำคัญ ไม่อยากให้ตร.ปล่อยตัว เพราะจะสร้างความดือดร้อนให้กับสังคม และคนในครอบครัว ที่ทุกอย่างในบ้านแทบจะไม่มีอะไรเหลือแล้ว และที่สำคัญเคยแม้กระทั่งขู่จะจุดไฟเผาบ้าน เมื่อขอเงินไม่ได้ จนอยากให้ จะทำอย่างไรก็ได้ เพื่อไม่ให้กลับมาบ้านอีก

