วันอังคาร, 10 ธันวาคม 2567

เทศบาลนครขอนแก่น ยืนยันจัดงานสงกรานต์-ถนนข้าวเหนียวเช่นเดิม แม้งบประมาณจะถูกตัด

ทน.ขอนแก่น ยืนยันจัดงานสงกรานต์-ถนนข้าวเหนียวเช่นเดิม แม้งบประมาณจะถูกตัด แต่อัตลักษณ์ของเมืองจะเงียบหายไม่ได้ เดินหน้าประสานงานร่วมรัฐ-เอกชน คงไว้ซึ่งสุดยอดเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญของไทยแม้จะไม่ยิ่งใหญ่เหมือนเดิม


เมื่อเวลา 13.30 น.วันที่ 6 ม.ค.2566 ที่สำนักงานเทศบาลนครขอนแก่น นายธีระศักดิ์ ฑีฆายุพันธ์ นายกเทศมนตรีนครขอนแก่น เปิดเผยว่า ขณะนี้มีความชัดเจนแล้วว่า คณะผู้บริหาร รวมทั้งหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน และหน่วยงานเครือข่ายทั้งจากส่วนกลางและภูมิภาค ได้มีการหารือและประสานการทำงานที่เป็นไปในทิศทางเดียวกันคือการจัดงานสุดยอดสงกรานต์อีสานเทศกาลดอกคูณเสียงแคนและถนนข้าวเหนียวประจำปี 2566 เพื่อคงไว้ซึ่งอัตลักษณ์ เสน่ห์และเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญของไทย หลังสถานการณ์โควิดได้คลี่คลายลงและประกาศเป็นโรคประจำถิ่น ซึ่งแม้การจัดงานเคาท์ดาวน์ปีใหม่ที่ผ่านมาเทศบาลไม่สามารถที่จะจัดงานที่เป็นจุดเด่นได้ เฉกเช่นปีที่ผ่านๆมา เนื่องจากงบประมาณที่ตั้งไว้นั้นถูกสมาชิกสภาเทศบาลตัดออกไป เช่นเดียวกันกับงานสงกรานต์และถนนข้าวเหนียว ที่เดิมเทศบาลฯตั้งไว้ 4.2 ล้านบาทแต่ถูกสมาชิกสภาเทศบาลเสียงข้างมาก ตัดงบประมาณออกไป 2.6 ล้านบาท คงไว้แค่กิจกรรมประเพณีและกิจกรรมที่บึงแก่นนคร แต่ด้วยอำนาจของผู้บริหาร ได้มีการมอบหมายให้ปลัดเทศบาลฯศึกษาในกฎระเบียบและข้อบังคับต่างๆ ในการที่จะกลับมาจัดงานสงกราสต์และถนนข้าวเหนียวให้ได้อีกครั้ง


“ กิจกรรมต่างๆของเทศบาลและจังหวัด ทุกคนและทุกฝ่ายได้ช่วยกันส่งเสริม สนับสนุนและผลักดัน จากในระดับท้องถิ่นจนมีชื่อเสียงโด่งดังระดับประเทศ ด้วยงบประมาณที่ไม่มากนักแต่สร้างมูลค่ารายรับให้กับจังหวัดจำนวนมาก ยกตัวอย่างเช่นงานสุดยอดสงกรานต์อีสานเทศกาลดอกคูณเสียงแคนและถนนข้าวเหนียว เทศบาลตั้งงบไว้ที่ 4.2 ล้านบาท ซึ่งถือเป้นกิจกรรมที่มีส่วนร่วมของชุมชนและหน่วยงานเครือข่ายต่างๆ จนเป็นที่ยอมรับของนานาประเทศ มีจำนวนนักท่องเที่ยวและสร้างรายได้ให้กับจังหวัดได้จำนวนมาก ไม่รับรวมกิจกรรมต่างๆที่เทศบาลฯและทุกหน่วยงานได้ดำเนินกิจกรรมตลอดทั้งปี ดังนั้นทุกฝ่ายมีการประเมินแล้วว่า การจัดกิจกรรมที่สำคัญ ของเทศบาลฯของจังหวัด สนองต่อนโยบายของรัฐบาล สนองต่อนโยบายของทุกฝ่ายโดยเฉพาะจากประชาชนที่ต้องการค้าขาย หรือมีรายได้ในช่วงเทศกาล ผมจึงหารือร่วมทุกฝ่ายในการเดินหน้าจัดเทศกาลสงกรานต์และกิจกรรมถนนข้าวเหนียว ด้วยงบที่มีอยู่และประสานงานร่วมเครือข่ายทุกหน่วยในการคืนรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ คงไว้ซึ่งภาพแห่งความประทับใจในกิจกรรมที่สนุกสนาน อบอุ่น เป้นกิจกรรมร่วมของชุมชน ของครอบครัว หลังจากที่โควิดได้คลี่คลายลงจึงต้องเดินหน้าอย่างต่อเนื่องต่อไป”


นายธีระศักดิ์ กล่าวต่ออีกว่า แม้ถนนข้าวเหนียวจะไม่ยาวเหมือนทุกครั้ง ซึ่งปีนี้กำหนดจัดกิจกรรมตลอดแนว ถนนศรีจันทร์ คือตั้งแต่ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองยาวจนถึงสี่แยก ถ.ศรีจันทร์ ตัด ถ.หน้าเมือง ตามงบประมาณและมาตรการคุ้มเข้มโควิดที่ยังคงต้องการ์ดไม่ตก ในทุกมาตรการ ซึ่งขณะนี้หลายภาคส่วนจับตามองว่าเทศบาลฯ จะจัดกิจกรรมใดๆหรือไม่ ดังนั้นซึ่งในช่วงปลายเดือน ม.ค.จะมีการประชุมร่วมคณะทงานร่วมทุกฝ่ายในการกำหนดแผนการจัดกิจกรรมภายใต้งบประมาณที่เทศบาลฯมี และงบสนับสนุนจากเครือข่ายต่างๆที่ขณะนี้ประสานขอร่วมเป็นส่วนหนึ่งและมีส่วนร่วมในกิจกรรมที่เป็นเอกลักษณ์และอัตลักษณ์ของขอนแก่น เพื่อให้ขอนแก่น ได้กลับมาคึกคัก สดใส และคงไว้ซึ่งประเพณีท้องถิ่นที่สวยงาม ในขณะที่การตัดงบประมาณต่างๆตามที่สภาฯเสียงข้างมากตัดไปนั้น แม้จะส่งผลต่อการพัฒนาเมืองแต่คณะผู้บริหารก็จะดำเนินงานตามอำนาจหน้าที่ต่อไป ซึ่งหลายโครงการที่ถูกตัดงบประมาณไปนั้นประชาชนในชุมชนได้รับทราบและเข้าใจในสถานการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว

ผู้สนับสนุนแพลตฟอร์มข่าว/สนใจลงโฆษณา ติดต่อนิตยา สุวรรณสิทธิ์-0628929797 DasKLf.jpg 8JER4J.jpg Da2r0R.png DpkFp1.jpg banner1-08.gif Dp1Qd0.png 2wk8Dt.jpg 2wcwIv.jpg


เรื่องที่เกี่ยวข้อง
ศูนย์การค้าเซ็นทรัล ขอนแก่น เปิดไฟต้นคริสต์มาส “The World Great Celebration 2025” กระตุ้นการท่องเที่ยวช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่       
ไฟเซอร์ ประเทศไทย รับรางวัล AMCHAM Corporate Social Impact Awards 2024 ต่อเนื่องปีที่ 12
ธนาพัฒน์ พร็อพเพอร์ตี้ ดิเวลล็อปเมนท์ ลงนามข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการ กับ คณะการสร้างเจ้าของธุรกิจและการบริหารกิจการ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ (BUSEM)
เปิดเหตุผล โก โฮลเซลล์ บุกเจริญราษฎร์ เจาะตลาดค้าส่งวัตถุดิบอาหาร บนทำเลทองใจกลางเมือง พบกัน 4 ธ.ค.นี้
เฮเฟเล่ ประเทศไทย ฉลอง 30 ปี ก้าวสู่ทศวรรษที่ 4 เดินเกมรุกตลาดลักชัวรี ตั้งเป้า 10,000 ล้านบาท ปี พ.ศ. 2573 ดัน “ประเทศไทย” เป็นศูนย์กลางบริหารและกำหนดทิศทางการพัฒนาธุรกิจ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
เมืองเวินโจวของจีนพลิกโฉมสู่ศูนย์กลางเส้นทางสายไหมทางทะเลยุคใหม่ เดินหน้าสร้างนวัตกรรมและจับมือพันธมิตรทั่วโลก