วันจันทร์, 24 มีนาคม 2568

จุรีพร สินธุไพร ลงสมัครชิงนายก อบจ.ร้อยเอ็ด ได้หมายเลข 4 ในนามผู้สมัครอิสระ

   วันนี้สมัครนายก อบจ.ร้อยเอ็ด เพิ่ม 2 คน เป็นหญิง คนแรกมาก่อนเวลา ได้หมายเลข 3 อ้างว่าตั้งใจมาสมัครไม่มีเบื้องหลังดันหมายเลขให้ใคร ส่วนจุรีพร สินธุไพร มาหลังจากคนแรกสมัครไปแล้ว การสมัครได้หมายเลข 4 เป็นไปตามเป้าหมาย ซึ่งทั้ง 2 คนยืนยันว่า ล้วนสมัครในนามผู้สมัครอิสระ ไม่สังกัดพรรคการเมืองใหญ่ เพราะเป็นเรื่องของงานบริหารท้องถิ่นระดับ จว.

คืบหน้า จ.ร้อยเอ็ดเปิดรับสมัครเลือกตั้ง นายก อบจ.ร้อยเอ็ด หลังจากนายเอกภาพ พลซื่อ ถูกศาลอุทรณ์ภาค 4 พิพากษาให้ออกจากตำแหน่ง เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม และหลังจากโดนใบแดง แถมตัดสิทธิ์ทางการเมือง 10 ปี และให้ชดใช้เงินจัดการเลือกตั้ง 34 ล้านบาท และ กกต.ร้อยเอ็ด ประกาศกำหนด

วันสมัครรับเลือกตั้งใหม่ เปิดรับสมัคร ระหว่างวันที่ 22 ถึง 26 สิงหาคม 2565 เพื่อเลือกตั้งนายก อบจ. คนใหม่ มีวาระ 4 ปี ขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 25 กันยายน 2565 ซึ่งการรับสมัครรับเลือกตั้งวันแรก ได้มีนางรัชนี พลซื่อ อดีตนายก อบจ. ลงสมัรนายก อบจ .ร้อยเอ็ด ได้หมายเลข 1  นายเศกสิทธิ์ ไวนิยมพงษ์  อดีต สส.ร้อยเอ็ด พรรคเพื่อไทย ได้หมายเลข 2 

 ซึ่งล่าสุด วันนี้ 25 สิงหาคม 2565 เวลา 10.49 น.ที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดร้อยเอ็ด ยังคงเปิดรับสมัครผู้ลงเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดร้อยเอ็ด โดยวันนี้  มีผู้สมัครคนแรก คือนางสาวโยธกา โคตุรพันธ์.ซึ่งเป็นนักธุรกิจ มีกิจการหลายอย่าง อดีตเคยลงสมัคร สว.และ การเมืองท้องถิ่น ซึ่งจนถึงเวลาเปิดรับสมัคร ยังไม่มีคนอื่นมาลงชื่อสมัครก่อน 8.30 น. จึงได้นำหลักฐานแสดงตัวตน พร้อมซองที่เขียนหน้าซอง ว่าเงินค่าสมัคร นายก อบจ. 3000 บาท ที่เตรียมมาไว้ เข้าสมัคร ได้ หมายเลข 3 ซึ่งหลังจากสมัครเสร็จ ก็ยืนยันว่าการเดินทางมาสมัคร ไม่มีเบื้องหลังมาเอาเลข 3  เพื่อเปิดช่องให้ผู้สมัครอื่นได้ เบอร์ 4 แต่อย่างใด จากนั้นก็เดินทางกลับไปเงียบๆ 

จากนั้นต่อมาเวลา 10.30 น. คณะของ นางจุรีพร สินธุไพร ซึ่งเดินทางมาพร้อมกับมวลชน จึงเดินทางมาถึง โดยอ้างว่า ถือฤกษ์ดี เวลา 10.30  น.เป็นฤกษ์ดี  ได้เดินทางมาสมัครชิงตำแหน่งนายก อบจ.ร้อยเอ็ด และได้หมายเลข 4 จากนั้น ลงมาพมวลชน ไปไหว้พระพรหม หนน้า ตึก อบจ.และไปไหว้ขอพร เจ้าพ่อมเหศักดิ์หลักเมือง ที่เกาะกลางบึงพลาญชัย ร้อยเอ็ด 

      ซึ่งผู้สมัครหมายเลข 4 กล่าวว่า ตนเองไม่ได้เกี่ยวกับการสมัครในนามพรรคการเมือง และไม่เคยแอบอ้างพรรคการเมืองระดับชาติ มาแอบแฝงหาเสียง การที่กล่าหาว่ ตนเอง หรือแอบอ้างพรรคการเมือง เมื่อหวังคะแนน เป็นการกล่าวหา ใส่ร้าย และโจมตีกัน ในเรื่องที่ไม่จริง เพราะการเลือก อบจ.ไม่เกี่ยวกับการเมือง ระดับชาติ แต่เป็นการท้องถิ่น ที่ตนไม่ได้สังกัดพรรคการเมืองใด และไม่มีความจำเป็นต้อง อาศัยชื่อพรรคการเมืองมาอ้าง เพื่อเป็นการหาเสียง นั้นไม่จริงและการสมัคร ก็ไม่ได้เป็นศัตรูกับใคร และอาสามาเป็นมือประสาน ให้กับทุกฝ่าย สลายความขัดแย้ง ให้ทุกคนหันมาร่วมกันพัฒนาร้อยเอ็ด ในบทบาท ของนายก อบจ.

   ส่าวนการทำงานหากได้รับเลือกเป็นนายก อบจ. ก็พร้อมที่จะดึงกลุ่มบุคคทุกฝ่าย ให้เข้ามาร่วมกันทำงาน และใช้แนวคิดและนโยบายที่ดีๆ ที่มีอยู่ มาผสมกับแนวคิดใหม่ๆ ด้านการแก้ปัญหาทุกด้าน ให้กับประชาขน ชาวร้อยเอ็ด โดยหลังเลือกตั้งแล้วว ทุกคนก็คือคนร้อยเอ็ด ที่จะต้องประสานแนวคิด แนวนโยบาย มาร่วมกันพัฒนาเมืองร้อยเอ็ด โดยจะไม่มีการเลือกฝ่ายเลือกกลุ่มหลังเลือกตั้ง เพราะอยากให้ช่วยกันทำงานสร้างสิ่งดีๆ เพื่อคนร้อยเอ็ด ร่วมกัน

//////////////////////

โชติกา ทวนชัยภูมิ/ภาพ/ข่าว

0956628047