วันพฤหัสบดี, 10 กรกฎาคม 2568

สาวขอนแก่นนั่งร้องไห้ หน้าศูนย์ดำรงธรรม วอนผู้ว่าฯ ช่วยด้วย หลังถูกบริษัทขุดเจาะท่อน้ำมันทำบ้านทรุด แตกร้าวไปหลายหลัง

สาวขอนแก่นนั่งร้องไห้ หน้าศูนย์ดำรงธรรม วอนผู้ว่าฯ ช่วยด้วย หลังถูกบริษัทขุดเจาะท่อน้ำมันทำบ้านทรุด แตกร้าวไปหลายหลัง ชาวบ้านเจรจากับบริษัทก็ไม่เป็นผล ต้องนั่งดูบ้านทรุด ทุกวัน

เมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 25 มิ.ย.2564ที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดขอนแก่น น.ส.ปาริชาติ ราชบุญเรือง อายุ 45 ปี ชาวบ้าน บ.เมืองเพีย ต.เมืองเพีย อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น พร้อมด้วยนายปกาญจน์ นพศรี ประธานสภาทนายความศาลจังหวัดพล ได้เดินทางมาที่ศูนย์ดำรงธรรมจ.ขอนแก่น เพื่อขอความเป็นธรรมจากนายสมศักดิ์ จังตระกุล ผวจ.ขอนแก่น ภายหลังจากที่ชาวบ้านถูกบริษัทขุดเจาะน้ำมันชื่อดังได้ทำการขุดเจาะทำให้เกิดปัญหาแก่บ้านเรือนในพื้นที่ โดยเฉพาะบ้านของ น.ส.ปาริชาติ และเพื่อนบ้านอีกหลายหลัง ที่ทรุด แตกร้าว ไม่มีความปลอดภัยในการอยู่อาศัย

โดยในการเดินทาวมาที่ศูนย์ดำรงธรรมดังกล่าวนี้ น.ส.ปาริชาติ มีความตั้งใจอยากจะพบ ผวจ.ขอนแก่น เพื่อยื่นเรื่องขอความช่วยเหลือโดยตรง เนื่องจากชาวบ้านในเขตต่างอำเภอต้องต่อสู้กับบริษัทยักษ์ใหญ่ระดับประเทศ แต่ทางเจ้าหน้าที่แจ้งว่าต้องยื่นเรื่องไว้ที่ศูนย์ฯเท่านั้น โดยจะทราบผลประมาณ 1 เดือนทำให้น.ส.ปาริชาติถึงกับนั่งร้องไห้บ่นอยู่ที่หน้าห้องศูนย์ดำรงธรรมท่ามกลางบรรยากาศที่สงสาร ของผู้ที่มาติดต่อราชการอย่างมาก

น.ส.ปาริชาติ กล่าวว่า ถ้าจะรอให้ถึง 1 เดือนครอบครัวและชาวบ้าน บ.เมืองเพียคงรอไม่ไหวแล้ว เนื่องจากรอมานานแล้ว เหตุการณ์เกิดขึ้นมาตั้งแต่เดือน ก.ย.ของปีที่ผ่านมา เจรจากันไปแล้ว 3 รอบแต่ทางบริษัทฯไม่มีท่าทีที่จะมาช่วยเหลือใดๆ และโดยส่วนตัวสงสารแม่ที่ป่วยเป็นมะเร็ง กลัวว่าแม่จะเครียดแล้วทำให้โรคกำเริบไปกว่านี้

และในขณะนั้นนายกิติพงษ์ เบี้ยวโกฏิ ผู้อำนวยการศูนย์ดำรงธรรมขอนแก่น ต้องออกมารับเรื่องเอง พร้อมกับชี้แจงกับ น.ส.ปาริชาติ ว่า ผวจ.ขอนแก่นไม่อยู่ติดภารกิจอยู่ข้างนอก แต่ทางศูนย์ฯ จะเร่งรัดให้ โดยจะเรียกทางบริษัทมาเจรจาและหาทางออกร่วมกันให้แล้วเสร็จภายในไม่เกิน 1 สัปดาห์

นายปกาญจน์ นพศรี ประธานสภาทนายความศาลจังหวัดพล กล่าวว่า ภายหลังจากได้รับการร้องขอจาก น.ส.ปาริชาติ ให้มาช่วยเหลือในเรื่องข้อกฎหมาย เพราะใกล้จะหมดอายุความแล้ว ซึ่งตนเห็นว่าหากสามารถเจรจาตกลงกันได้ ก็น่าจะตกลงกันดีกว่า เพราะถ้าฟ้องร้องกันไป กว่าคดีจะจบก็อีกประมาณ 2 – 3 ปี เจ้าของบ้านจะอยู่อย่างไร แต่ถ้าฟ้องร้องกันจริง สภาทนายความก็พร้อมที่จะเดินหน้าตรวจสอบว่า บริษัทที่มารับเหมาโดยรับช่วงต่อจากบริษัทใหญ่อีกทอดหนึ่งมีการจดทะเบียนถูกต้องหรือไม่

“จากการตรวจสอบในชั้นต้นยังไม่พบรายชื่อบริษัทที่มาทำการขุดเจาะอยู่ในสาระบบเลย และในส่วนของการทำประชาพิจารณ์นั้น จากการตรวจสอบในชั้นต้นทราบว่ายังไม่มีการทำประชาพิจารณ์กับคนใน พื้นที่ซึ่งที่จริงแล้วการทำโครงการใหญ่ๆ จะต้องมีการทำประชาพิจารณ์ถึงผลกระทบกับสิ่งแวดล้อมที่อาจจะเกิดขึ้นได้ก่อน”

ผู้สนับสนุนแพลตฟอร์มข่าวมวลชนไทยนิวส์ข่าวออนไลน์-0628929797 DNk79R.jpg Phh9Db.jpg DasKLf.jpg Da2r0R.png DpkFp1.jpg banner1-08.gif Aqh3Ka.jpg Dp1Qd0.png