วันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา 9:00 น นายสายยนต์ สีหาบัว ผอ.สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดร้อยเอ็ด พ.อ. ถนอม วงศ์สีมา ผอ.(กอ.รมน.).กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดร้อยเอ็ด /นายคมเพชร สีดามาตย์ จนท.สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดร้อยเอ็ด และจนท.งานป้องกันฯเทศบาลรอบเมือง อ.เมืองร้อยเอ็ด บูรณาการ ใช้กฎหมายมาตรา 25 ตามพรบสาธารณสุข พ.ศ. 2535 เข้าพบนายวุฒิชัย ธรรมเจดีย์ ผู้จัดการโรงงาน หลังคาเหล็กแสงไทย ซึ่งตั้งอยู่ที่บ้านเลขที่ 146 หมู่ 13 บ้านเปลือยนอก ตำบลรอบเมือง อ.เมือง จ.ร้อยเอ็ด เพื่อตรวจสอบ การลักลอบเผาขยะ สารพิษ ส่งกลิ่นเหม็น รบกวนประชาชน ซึ่งได้รับการร้องเรียนจากประชาชน ได้รับความเดือดร้อน จากการเผาขยะ ของโรงงานดังกล่าว เรียกร้องให้ส่วนราชการ เข้าไปตรวจสอบ และสั่ง ให้ยุติการเผาขยะเศษซากวัสดุเหลือใช้ที่หลังโรงงานทุกวัน
ซึ่งจากการสอบถาม เจ้าของโรงงานดังกล่าวรับว่า ได้มีการเผาขยะ เศษซากวัสดุ ที่เป็น ไนลอน เศษ พลาสติก และถุงพลาสติกเหลือใช้ ของโรงงานจริง พร้อมกับพาไป ดูสถานที่ที่ ทำการเผาขยะทุกวัน ก็พบว่า ขณะที่ลงไปตรวจสอบข้อเท็จจริง ก็ยังคงมีการเผาเศษซากวัสดุถุงพลาสติก จนเกิดกุมภาพันธ์และส่งกลิ่นเหม็น รุนแรง มันเป็นสารพิษ ก่ออันตราย และรบกวน ต่อระบบทางเดินหายใจและ ก่อให้เกิดกลุ่มควัน กระทบสิ่งแวดล้อม จึงสั่งให้ทำการ ใช้น้ำดับไฟ และกำชับให้ ยุติการเผาเศษซากวัสดุ ที่ส่งผลกระทบต่อชุมชน ดังกล่าว ซึ่งนำไปสู่ การร้องเรียน ถึงความเดือดร้อนไปยัง ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดร้อยเอ็ด
ซึ่งทางด้านนายสายยนต์ สีหาบัว กล่าวว่าการเดินทางมาครั้งนี้ เมื่อเจ้าของโรงงานยอมรับว่ามีการเผาขยะส่งผลกระทบต่อชุมชนจริงและยอมบันทึกว่าจะยุติ จึงได้ได้ทีการลงโทษ หรือบังคับใช้กฏหมาย ที่สามารถปรับได้ 2000 บาทตามที่กฎหมายกำหนด และบันทุกว่ากล่าวตักเตือนแทน และให้ใช้มาตรการอื่นเข้ามาแก้ปัญหา โดยติดต่อชาวบ้านที่เก็บขยะมาเก็บไปขายให้คนจนเกิดรายได้ หรือไม่เช่นนั้น ก็ใช้วิธีการกำจัดขยะด้านอื่นที่ไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่วแวดล้อมแทน โดยแนะว่าให้ประสานกับเทศบาลรอบเมืองเข้ามาดำเนินการขนไปทำงานทำลายตามขั้นตอนที่ถูกต้องเพื่อไม่ให้สางผลกระทบด้านฝุ่นควันและสารพิษ
เจ้าหน้าที่ ได้ทำการบันทึก ข้อความ ให้เจ้าของโรงงานลงนาม ครับว่ามีการ เผาเศษซากขยะจริง และลงนามยินยอมปฏิบัติตามระเบียบ โดยจะยุติการเผาขยะโดยเด็ดขาด ซึ่งหลังจากนี้ไปหากยังมีการฝ่าฝืน จนมีการร้องเรียน เกิดขึ้นอีก ก็ใช้มาตรการเด็ดขาดทางกฎหมายเข้ามำดำเนินการ และจะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายสูงสุด ซึ่งมีโทษทั้งจำทั้งปรับต่อไป
/////////////////////////
โชติกา ทวนชัยภูมิ ภาพ/ข่าว
0956628047