วันที่ 28 ตุลาคม 2564 เวลา 10.00 น. ที่ หอประชุมอ่างเก็บน้ำธวัชชัย ต.มะอึ อ.ธวัชบุรี จ.ร้อยเอ็ด แอโร กรุ๊ป (1992) ร่วมกับสำนักงานพัฒนาฝีมือแรงงานร้อยเอ็ด จัดอบรมหลักสูตรอาชีพเสริม สาขา “ผู้บังคับหรือปล่อยอากาศยาน ซึ่งไม่มีนักบิน (Drone)เพื่อการเกษตร” ภายใต้โครงการพัฒนาทักษะอาชีพผู้บังคับอากาศยานไร้คนขับ (Drone) เพื่อการเกษตร ให้กับเกษตรกรผู้สนใจในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น และพื้นที่ใกล้เคียง ประธานเปิดงานโดย นายชนาส ชัชวาลวงศ์รองผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด พร้อมด้วยนายเอกภาพพลซื่อ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดร้อยเอ็ด หัวหน้าส่วนราชการสังกัดกระทรวงแรงงาน ร่วมพิธีเปิดงาน
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2563 กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน โดยนายธวัช เบญจาทิกุล อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กับบริษัท แอโร กรุ๊ป (1992) จำกัด โดย ดร.กฤษดา อัครพัทธยากุล กรรมการผู้จัดการ ได้ลงนามความร่วมมือโครงการพัฒนาทักษะอาชีพผู้บังคับอากาศยานไร้คนขับ (Drone) เพื่อการเกษตร โดยมี ดร.ดวงฤทธิ์ เบ็ญจาธิกุล ชัยรุ่งเรือง ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงแรงงาน เป็นประธานในพิธีบันทึกความร่วมมือดังกล่าวฯ มีวัตถุประสงค์เพื่อต้องการ ช่วยเหลือเกษตรกรไทย ด้วยการนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้กับการเกษตร ช่วยลดเวลาการทำงาน เพิ่มผลผลิต และลดความเสี่ยงจากการสัมผัสสารเคมีจากการฉีดพ่นโดยตรง รวมถึงเพื่อเป็นการช่วยเหลือผู้ถูกเลิกจ้าง และผู้ว่างงานจากผลกระทบจากการแพร่ระบาด ของไวรัสโควิด-19 ให้สามารถนำความรู้ไปปรับใช้ในการประกอบอาชีพได้อย่างยั่งยืนต่อไป
ดร.กฤษดา อัครพัทธยากุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอโร กรุ๊ป (1992) จำกัด กล่าวว่า จังหวัดร้อยเอ็ดและจังหวัดขอนแก่น เป็นจังหวัดที่มีนาแปลงใหญ่มาก พร้อมทั้งยังมีการเริ่มนำโดรนเพื่อการเกษตรเข้ามาใช้ประมาณ 20 ลำกระทรวงที่นำร่องคือกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ การจัดฝึกอบรมวันนี้เป็นการบูรณาการจังหวัดที่ใกล้เคียงที่มีศักยะภาพเข้าร่วมด้วยกัน หลักสูตรนี้จึงเป็นหลักสูตรยกระดับ 18 ชั่วโมงเพื่อยกระดับแรงงานให้มีทักษะหลักสูตรจึงมีชื่อว่าพัฒนาทักษะอาชีพผู้บังคับอากาศยานไร้คนขับ (Drone) เพื่อการเกษตร ปัจจุบันนี้การที่จะทำให้เกษตรมีผลผลิตที่ดีขึ้นและแก้ปัญหาเกษตรกรหลายๆเรื่องหลักสูตรนี้จึงเริ่มจากการที่คิดสนองนโยบายภาครัฐในเรื่องของเกษตร 4.0 ซึ่งทำให้ smart ความหมายของ smart ก็คือความแม่นยำขณะเดียวกันโครงการนี้ก็จะช่วยลดต้นทุนถือว่าการใช้อากาศยานไร้คนขับโดรนเพื่อการเกษตรทำการพ่นสารกำจัดวัชพืช, แมลงศัตรูพืช และพ่นฮอร์โมนบำรุงพืช สามารถลดเวลาลง เมื่อเทียบกับการใช้แรงงานคน 3-5 เท่า และช่วยลดปริมาณน้ำที่ใช้สำหรับการผสมสารลง 10-15 เท่า เพราะฉนั้น น้ำยาที่ออกจากโดรนพ่นยาเปรียบเสมือนหัวเชื้อ เป็นการฉีดพ่นสารจากบนลงล่าง ลมจากใบพัดจะช่วยกดน้ำยาลงสู่พืชซึ่งค่าบริการฉีดพ่นสารเคมีโดยใช้อากาศยานไร้คนขับ จะเท่ากับค่าจ้างแรงงานคน คือ ไร่ละประมาณ 50-70 บาท (กรณีนาข้าว) โดยโดรนขนาด 10 ลิตร 1 ลำ สามารถทำงานได้มากถึง 100 ไร่ต่อวัน คิดเป็นเงิน 5,000-7,000 บาท (กรณีที่มแบตเตอรี่มากพอ หรือเวียนชาร์ต) และสามารถลดความเสียหายที่เกิดจากการเหยียบย่ำพืชในระหว่างฉีดพ่น และลดความเสี่ยงเรื่องปัญหาสุขภาพจากการสัมผัส หรือสูดดมสารเคมีของตัวเกษตรกรเอง ซึ่งถือเป็นประโยชน์อย่างมาก
นายชนาส ชัชวาลวงศ์รองผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด เปิดเผยว่า การฝึกอบรมในวันนี้เกิดจากการร่วมแรงร่วมใจระหว่างภาครัฐ กับภาคเอกชน ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กระทรวงแรงงาน กับบริษัท แอโร กรุ๊ป (1992) จำกัด ที่ได้มุ่งมั่นดำเนินการจัดฝึกอบรม การฝึกอบรมครั้งนี้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงานรองรับการเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยีของภาคการเกษตร อันเป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ รวมทั้งเป็นการส่งเสริมอาชีพ เกษตรกรรมและพัฒนาเกษตรกรให้มีความมั่นคงในอาชีพได้อย่างยั่งยืนต่อไป
นายเอกภาพ พลซื่อ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดได้กล่าวว่า องค์การบริหารส่วนจังหวัดได้มารับฟังข้อมูลในวันนี้ได้ทราบถึงประโยชน์ที่จะเพิ่มพัฒนาให้เกษตรกรได้มีผลผลิตและลดต้นทุนรวมทั้งในเรื่องของสุขภาพของร่างกายของเกษตรกรตนจึงเห็นว่าจะนำเสนอเรื่องนี้เข้าวาระการประชุม ให้ที่ปรึกษาและคณะผู้บริหารขององค์การบริหารส่วนจังหวัด ได้เสนอข้อคิดเห็น ซึ่งตนเล็งเห็นว่าน่าจะมีการจัดซื้อจัดจ้างมาไว้เพื่อให้บริการเกษตรกรอย่างน้อยเริ่มต้นที่ 3 ลำซึ่งเนื่องจากถ้าเกิดว่าให้เกษตรกรแต่ละรายจัดหาจัดซื้อเองก็คงเป็นปัญหาในการหาแหล่งทุน และจะไม่คุ้มกับในเรื่องของการลงทุน
ทั้งนี้ โครงการดังกล่าว มีทีมงานจากบริษัท แอโร กรุ๊ป (1992) จำกัด ร่วมกับวิทยากรจากกรมวิชาการเกษตร และสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทยเป็นวิทยากร เนื้อหาการฝึกอบรมประกอบด้วย ความรู้พื้นฐาน / ความปลอดภัยและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง,การผสมสารที่ใช้ในการพ่น, การบังคับหรือปล่อยอากาศยาน การขนย้ายและเก็บรักษา, ตลอดจนการซ่อมแซม และบำรุงรักษาเบื้องต้น คาดว่าผู้ผ่านการฝึกอบรมจะมีความรู้และทักษะในการบังคับ หรือปล่อยอากาศยานไร้คนขับ (Drone) เพื่อการเกษตร และสามารถนำความรู้และทักษะที่ได้ไปประกอบอาชีพ สร้างงาน สร้างรายได้ ให้กับตนเองและครอบครัว กำหนดฝึกอบรมระหว่างวันที่ 28-29 ตุลาคม 2564 โดยมีผู้สนใจสมัครเข้าร่วมฝึกอบรมทั้งสิ้น 30 คน
/////////////////////////
โชติกา ทวนชัยภูมิ /ภาพ/ข่าว
0956628047