ไทยลีกจัดประชุมร่วมกับสโมสรไทยลีก 1-2 เพื่อแจ้งมาตรการแข่งขันแบบปิดและมีเหย้า-เยือน หลังจากได้รับอนุมัติจากศบค. โดยจะเริ่มแข่งขันเต็มรูปแบบในวันเสาร์ที่ 6 กุมภาพันธ์ 2564
วันที่ 22 มกราคม 2564 ณ ห้องประชุม บริษัท ไทยลีก จำกัด ได้จัดประชุมสโมสรไทยลีก 1-2 ขึ้น โดย พล.ต.อ. ดร. สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ มอบหมายให้ กรวีร์ ปริศนานันทกุล รักษาการเจ้าหน้าที่บริหาร เป็นประธาน พร้อมด้วยตัวแทนสโมสรสมาชิก และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม
โดยในการประชุมมีสาระสำคัญดังนี้
1. ปฏิทินการแข่งขัน
1.1. เริ่มการแข่งขันด้วย ช้าง เอฟเอ คัพ รอบ 16 ทีมสุดท้าย วันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2564
1.2. ไทยลีก 1-2 เริ่มแข่งขันวันที่ 6-7 กุมภาพันธ์ 2564 โดยนำแมตช์แข่งขันในเดือนมกราคม มาแข่งขันในเดือนกุมภาพันธ์ และจะจบฤดูกาลสิ้นเดือนมีนาคม และมีการแข่งขันช่วงกลางสัปดาห์ของไทยลีก 1 ทั้งหมด 5 นัด และไทยลีก 2 ทั้งหมด 7 นัด
1.3. จะมีแมตช์นำร่อง ในวันที่ 31 มกราคม 2564 เป็นนัดตกค้าง ระหว่าง สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด พบ การท่าเรือ เอฟซี เนื่องจาก จ. เชียงราย อยู่ในพื้นที่มีความเสี่ยงต่ำ
1.4. ศบค. ยังไม่อนุญาตให้จัดการแข่งขัน สำหรับสโมสรที่อยู่ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 5 จังหวัด ได้แก่ ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด และสมุทรสาคร โดยในเบื้องต้น สโมสรที่อยู่ใน 5 จังหวัดดังกล่าว จำเป็นต้องหาสนามแข่งขันสนามกลาง จนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง
1.5. ช้าง เอฟเอ คัพ รอบ 8 ทีมสุดท้าย แข่งขันวันที่ 3 เมษายน, รอบรองชนะเลิศ วันที่ 7 เมษายน และรอบชิงชนะเลิศ วันที่ 11 เมษายน ตามลำดับ
1.6. เพลย์ออฟไทยลีก 2 หาทีมเลื่อนชั้นไทยลีก 1 รอบรองชนะเลิศ (เหย้า-เยือน) จะแข่งขันวันที่ 4 และ 10 เมษายน ขณะที่รอบชิงชนะเลิศ (เหย้า-เยือน) จะแข่งขันวันที่ 17 และ 24 เมษายน
2. ข้อปฏิบัติในการแข่งขัน
2.1. ไทยลีกและสโมสรส่งรายชื่อนักกีฬา และเจ้าหน้าที่ ที่จะทำการแข่งขันตลอดฤดูกาล ให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เพื่อส่งต่อกระทรวงมหาดไทย และประสานต่อไปยังจังหวัด ในการขออนุญาตให้มีการแข่งขัน และเอกสารรับรองการเดินทางข้ามจังหวัด
2.2. ผู้จัดการแข่งขัน จัดการแข่งขันตามคู่มือจัดการแข่งขันฟุตบอลแบบปิด และให้มีการใช้แอพพลิเคชั่น ไทยชนะ และ สปิริต
2.3. นักกีฬาและเจ้าหน้าที่ ต้องผ่านการตรวจเชื้อโควิด-19 ทุกเดือน และใช้แอพพลิเคชัน หมอชนะ หากพบผู้ติดเชื้อ ให้แจ้งหน่วยงานสาธารณสุขที่รับผิดชอบและดำเนินการควบคุมโรค
2.4. ลดจำนวนผู้เกี่ยวข้องที่อยู่ในสนามไม่เกิน 150-180 คน โดยแบ่งจำนวนผู้เข้าร่วมกิจกรรม ออกเป็น 4 ประเภท ได้แก่ นักกีฬา, พนักงานจัดกิจกรรม, สื่อและถ่ายทอดสด และ VIP
3. การเดินทางและที่พัก
3.1. จำกัดการเดินทางเฉพาะจุดหมายที่จำเป็น และลดการเดินทางไปยังพื้นที่เสี่ยง/ชุมชน
3.2. สำหรับการเดินทางโดยรถบัสส่วนตัว ในจังหวัดที่ระยะทางไม่ไกลมาก ให้เดินทางจากจุด A (ภูมิลำเนา) ไปถึงจุด B (สนามแข่งขัน / โรงแรม / สนามฝึกซ้อม) เป็นหมู่คณะ ทั้งไปและกลับ
3.3. หากต้องเดินทางโดยเครื่องบิน ให้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคอย่างเคร่งครัด หลีกเลี่ยงการรับประทานในระหว่างโดยสาร หรืออยู่ในสนามบิน รักษาระยะห่างกับบุคคลอื่นๆ นอกเหนือหมู่คณะของตนเอง
3.4. สโมสรเจ้าบ้าน จะอำนวยความสะดวก ในการประสานงาน จัดหาโรงแรมภายในจังหวัด ให้แก่ทีมเยือนได้เลือก อย่างน้อย 2 โรงแรม โดยโรงแรมจะต้องสามารถแยกสัดส่วน ระหว่างแขกทั่วไป และทีมเยือนได้อย่างชัดเจน นอกจากนี้ ทีมเยือนจะต้องงดใช้พื้นที่ส่วนกลางของโรงแรม ในทุกกรณี
4. มาตรการป้องกันตัวเอง
4.1. ศบค. เข้าใจว่าการทำบับเบิลแบบเต็มรูปแบบกับฟุตบอลลีก สามารถทำได้ยาก จึงอนุญาตให้นักกีฬาและเจ้าหน้าที่ทีมสามารถพักในที่พักของตนเองได้หลังจากแข่งขันเสร็จ แต่หากมีสโมสรใดสามารถทำการกักตัวทีมเป็นหมู่คณะ ก็สามารถทำได้ เพื่อป้องกันการรับเชื้อจากปัจจัยภายนอก
4.2. สำหรับนักกีฬาและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ให้หลีกเลี่ยงไปพื้นที่เสี่ยง หรือสถานที่ที่มีการรวมตัวกันของคนหมู่มาก สวมหน้ากากอนามัย ล้างมือทำความสะอาด รักษาระยะห่าง และให้เฝ้าระวังอาการ ตรวจวัดอุณหภูมิอย่างสม่ำเสมอ โดยอาจพิจารณาการแยกกลุ่มซ้อม (Small Side Training) เพื่อแยกระดับความเสี่ยงในทีม
5. การเปลี่ยนตัวผู้เล่น
5.1. ไทยลีก 1-2 และ ช้าง เอฟเอ คัพ เพิ่มการเปลี่ยนตัวสำรองเป็น 5 คน โดยทีมสามารถเปลี่ยนตัวได้ 3 ครั้ง ไม่รวมพักครึ่ง
5.2. กรณีที่มีการต่อเวลาการแข่งขัน (สำหรับบอลถ้วย/เพลย์ออฟ) สามารถเปลี่ยนได้อีก 1 คน และเปลี่ยนได้อีก 1 ครั้ง เพิ่มเติมจากเวลาปกติ (ไม่รวมก่อนเริ่มต่อเวลา และพักครึ่งต่อเวลา)
6. ขั้นตอนการปฏิบัติกรณี VAR ขัดข้อง
6.1. FIFA และ IFAB ชี้แจงว่า VAR เป็นเทคโนโลยีเพื่อช่วยในการตัดสินเท่านั้น ด้วยเหตุนี้ เมื่อ VAR ขัดข้อง การแข่งขันยังคงดำเนินการต่อ จะไม่มีการยกเลิกการแข่งขัน โดยนโยบายการยกเลิกการใช้งาน VAR ที่สมาคมฯ และไทยลีกใช้อยู่ปัจจุบัน เป็นการตามคำแนะนำจาก FIFA และ IFAB
6.2. เมื่อเกิดเหตุขัดข้อง ผู้ตัดสินจะทำการเรียน นักกีฬา และโค้ชของทั้ง 2 ทีม ผู้ควบคุมการแข่งขัน และผู้จัดแข่งขัน (LOC) เพื่อทำการประกาศ
6.3. หากเกิดขัดข้องในครึ่งแรก ให้ยกเลิกการใช้งานตลอดครึ่งแรกทันที จะกลับมาใช้งานได้ ก็ต่อเมื่อซ่อมแซมเสร็จ ภายในช่วงพักครึ่งเวลาเท่านั้น
6.4. หากขัดข้องในครึ่งหลัง ให้ยกเลิกการใช้งานตลอดช่วงเวลาที่เหลือของเกมดังกล่าว