น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า จากกรณีประกาศกฎกระทรวงสาธารณสุข การอนุญาตจำหน่ายหรือมีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเภท 2 (มอร์ฟีน โคเคน เป็นต้น) พ.ศ. 2563 ขณะนี้เกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อนว่ารัฐ เปิดให้ครอบครองและจำหน่ายยาเสพติดให้โทษในประเภท 2 ได้ จึงขอชี้แจงว่า กฎกระทรวงดังกล่าว เป็นไปเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์และทางราชการเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็น เพื่อการรักษาหรือป้องกันโรคให้แก่ผู้ป่วยหรือสัตว์ป่วยในทางการแพทย์ เพื่อการวิเคราะห์หรือการศึกษาวิจัยทางการแพทย์หรือวิทยาศาสตร์ และประโยชน์ทางราชการอื่น โดยกฎกระทรวงนี้ ไม่ได้เป็นการถอดมอร์ฟีน หรือ โคเคน ออกจากรายการยาเสพติดให้โทษแต่อย่างใด จึงขอประชาชนอย่าหลงเชื่อข่าวลวงในโลกออนไลน์ และใช้ความละเอียดรอบคอบในการรับข้อมูลข่าวสาร
น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า กฎกระทรวงสาธารณสุข การอนุญาตจำหน่ายหรือมีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเภท 2 มีผลบังคับใช้ภายใน 240 วันนับจากวันที่ 16 พ.ย. 2563 ผู้จะขออนุญาตจำหน่ายหรือมีไว้ในครอบครอง ต้องมีคุณสมบัติ 1. เป็นกระทรวง ทบวง กรม องค์การบริหารส่วนท้องถิ่น กรุงเทพมหานคร สภากาชาดไทย หรือองค์การเภสัชกรรม 2. เป็นผู้ประกอบการขนส่งสาธารณะระหว่างประเทศ 3. เป็นผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม ผู้ประกอบวิชาชีพเภสัชกรรม ผู้ประกอบวิชาชีพทันตกรรม หรือผู้ประกอบวิชาชีพการสัตวแพทย์ชั้นหนึ่ง โดยการขออนุญาตเป็นไปตามที่กฎกระทรวงกำหนด เท่านั้น
“ในสังคมออนไลน์มีข้อถกเถียงเกี่ยวกับกฎกระทรวงนี้เป็นวงกว้าง นอกจากนี้ยังทำให้ประชาชนจำนวนหนึ่งเข้าใจว่ารัฐบาลเปิดให้สามารถครอบครองหรือจำหน่าย มอร์ฟีน โคเคน ได้แล้ว จึงขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริง โดยกฎกระทรวงดังกล่าวมีไว้เพื่อประโยชน์ทางการแพทย์และราชการเท่านั้น ผู้ที่ครอบครองหรือจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 2 ยังมีความผิดตามกฎหมาย ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนใช้ความรอบคอบในการรับข้อมูลข่าวสาร และอย่าหลงเชื่อข่าวลวงว่าสามารถครอบครองหรือจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 2 ได้แล้ว” น.ส.ไตรศุลี กล่าว