ณ ตึกสันติไมตรี (หลังใน) ทำเนียบรัฐบาล หลังการประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เผยไทยเตรียมเข้าสู่การประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่ 37 ในห้วงวันที่ 12 – 15 พ.ย. นี้ จะเป็นการประชุมครั้งใหญ่ โดยมีการประชุมสุดยอดอาเซียนกับคู่เจรจา การประชุมสุดยอดอาเซียนกับทวิภาคีหลัก อาทิ ประเทศจีน ประเทศอินเดีย ประเทศออสเตรเลีย เป็นต้น ซึ่งสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามเป็นเจ้าภาพในการประชุมในปีนี้ ผ่านการประชุมทางไกลผ่านระบบ Video Conference โดยคณะรัฐมนตรีเห็นชอบร่างเอกสารฯ ให้ครบถ้วนตามกระบวนการทางกฎหมาย รวมทั้งคาดว่าการประชุมในครั้งนี้ RCEP จะประสบความสำเร็จและผ่านไปด้วยดี เพราะหลายประเด็นได้เริ่มดำเนินการตั้งแต่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพในการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 36 นายกรัฐมนตรียังแถลงว่า ในช่วงที่ผ่านมาก่อนการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 นั้น รัฐบาลไทยได้มีส่วนร่วมหารือหลายการประชุมด้วยกัน ร่วมทั้งการประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่ม G20 การประชุมเอเปค ซึ่งทุกประเทศต่างให้การสนับสนุนประเทศไทยเนื่องจากมีความสำคัญและมีศักยภาพในการเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาร่วมกัน
นายกรัฐมนตรียืนยันโปรแกรม Wellness Quarantine ยังต้องมีมาตรการเพื่อรองรับและต้องเข้าสู่การพิจารณาที่ประชุม ศบค. อีกครั้ง โดยนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้ามาสามารถเลือกได้ว่าจะเข้าพักที่สนามกอล์ฟ ซึ่งอาจเป็นสนามกอล์ฟที่เป็นพื้นที่ปิด หรือมีโรงแรมให้สามารถเข้าพักได้ด้วย จึงเป็นไอเดียที่น่าสนใจเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ
ในตอนท้าย นายกรัฐมนตรีชี้แจงถึงการจัดซื้อจัดจ้างของกรมการขนส่งทางบก เป็นการดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ซึ่งเป็นขั้นตอนตามกฎหมาย หากพบข้อสงสัยให้ผู้ที่เกี่ยวข้องต้นสังกัดออกมาชี้แจงรายละเอียด