
วันเสาร์ที่ 10 ตุลาคม 2563 ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นำคณะเดินทางลงพื้นที่ ทุ่งกุลาร้องไห้ อำเภอเกษตรวิสัยติดตามสถานการณ์การช่วยเหลือ ของหน่วยปฏิบัติการฝนหลวง ที่ให้ความช่วยเหลือ การเพาะปลูกข้าวหอมมะลิในพื้นที่ทุ่งกุลาร้องไห้ จังหวัดร้อยเอ็ด โดยเดินทางไปพบปะ รับฟังปัญหา และให้กำลังใจ พร้อมกับรับฟังความต้องการของ สมาชิกสหกรณ์การเกษตรเกษตรวิสัยจำกัด ด้วยการพบปะกับสมาชิก ของสหกรณ์ 9051 ครัวเรือน จาก 13 ตำบลของอำเภอเกษตรวิสัย ที่โรงสีสหกรณ์การเกษตรเกษตรวิสัยจํากัดบ้านนกเหาะ ตำบลดงครั่งใหญ่ อำเภอเกษตรวิสัยจังหวัดร้อยเอ็ด โดยมี นายชยันต์ ศิริมาศ ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด นำข้าราชการฝ่ายปกครอง นายอำเภอเกษตรวิสัย รวมทั้ง ยังมี ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร นำคณะหน่วยปฏิบัติการฝนหลวง โอนเงิน ให้การต้อนรับ พร้อมกับรายงานสถานการณ์ การให้ความช่วยเหลือ ด้านการทำฝนเทียม เพื่อช่วยแก้ปัญหาสภาวะขาดแคลนน้ำในการ ทำนาข้าวหอมมะลิ ของสมาชิกเครือข่ายสหกรณ์การเกษตรเกษตรวิสัยจำกัด


โดยอธิบดีกรมฝนหลวง และการบินเกษตร ได้รายงานถึง การให้ความช่วยเหลือพื้นที่การเกษตร ที่ประสบปัญหาภัยแล้ง และฝนทิ้งช่วงในพื้นที่ทุ่งกุลาร้องไห้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม จนถึงปัจจุบัน ในการเข้ามาแก้ไขปัญหา พื้นที่การเกษตรของทุ่งกุลาร้องไห้ซึ่งอาศัยน้ำฝนเป็นหลัก ที่มีการเพาะปลูกข้าวหอมมะลิเป็นจำนวนมาก และ ได้รับความเดือดร้อน ได้รับผลกระทบจากปริมาณน้ำฝนต่ำกว่าค่าปกติทำร้อยละ 59 ประกอบกับเกิดปัญหาฝนทิ้งช่วง ในเดือนเมษายนถึงกรกฎาคม ส่งผลกระทบให้มีปริมาณน้ำฝนไม่เพียงพอต่อการเกษตร ซึ่งมีประชาชน กว่าร้อยรายทำเรื่องขอรับการ บริการฝนหลวง ซึ่งส่วนใหญ่ การร้องขอรับบริการฝนหลวงมากที่สุดคือพื้นที่อำเภอเกษตรวิสัย จังหวัดร้อยเอ็ด และหน่วยปฏิบัติการฝนหลวง ได้มีการตั้งหน่วย กฎหมายการฝนหลวง จำนวน 4 หน่วย เข้ามาให้ความช่วยเหลือพื้นที่ 5 จังหวัด ในเขตทุ่งกุลาร้องไห้ ประกอบด้วย จังหวัดมหาสารคาม ศรีสะเกษ สุรินทร์ ยโสธร และจังหวัดร้อยเอ็ด เพื่อช่วยลดปัญหาการขาดแคลนน้ำในพื้นที่ทุ่งกุลาร้องไห้อย่างเร่งด่วน ให้กับพื้นที่ 5 จังหวัดดังกล่าว โดยมีการขึ้นปฏิบัติการฝนหลวงได้ทั้งหมด ไปแล้ว 178 วัน ทำให้มีฝนตกในพื้นที่ทุ่งกุลาร้องไห้ 86 วัน ครอบคลุมพื้นที่รวม 2.94 ล้านไร่ สามารถช่วยเหลือเกษตรกรให้ได้มีปริมาณน้ำฝนที่เพียงพอต่อการเกษตรได้ในระดับหนึ่ง และจะดำเนินการต่อไป เพื่อช่วยเหลือเกษตรกร จนกว่าจะถึงฤดูเก็บเกี่ยว

ในขณะที่ทางด้านนายชยันต์ ศิริมาศ ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ดกล่าวรายงานปัญหา สภาพการขาดแคลนน้ำในพื้นที่ จังหวัดร้อยเอ็ดว่า จากสถานการณ์ฝนทิ้งช่วง การเกิดสภาวะ ขาดแคลนน้ำเพื่อการเกษตร และอุปโภคบริโภคอย่างหนัก ในปีนี้นั้น ปรากฏ จากผลสำรวจ พบว่า อ่างเก็บน้ำขนาดกลางของจังหวัดร้อยเอ็ด 12 แห่ง ซึ่งสามารถ เก็บกักน้ำ ได้ทั้งหมด 69 .342 ล้านลูกบาศก์เมตร ในปัจจุบัน มีปริมาณน้ำในอ่าง ทั้ง 12 แห่ง เพียง 29.88 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 43.09 ของ พื้นที่ กักเก็บน้ำทั้งหมด ของจังหวัดร้อยเอ็ด จนต้องได้มีการขอรับการสนับสนุนการปฏิบัติการฝนหลวง เพื่อช่วยเหลือพื้นที่การเกษตร ซึ่งเกษตรกรได้ยื่น ข้อเรียกร้องให้พิจารณา ให้ความช่วยเหลือพื้นที่ทุ่งกุลาร้องไห้ ซึ่งเป็นแหล่งผลิตข้าวหอมมะลิ ที่ดีที่สุด เป็นอันดับแรก ก่อนที่ จะให้ความช่วยเหลือ พื้นที่อื่น ให้ครอบคลุมทุกอําเภอ ภายในจังหวัดร้อยเอ็ด ต่อไป
//////////////////////
โชติกา ทวนชัยภูมิ /ภาพ/ข่าว
0956628047