ร้านแจ่วฮ้อนชื่อดังประกาศปิดร้านชั่วคราว เจ้าของร้านเผยไม่อยากขึ้นราคาเพราะทุกวันนี้อะไรๆก็แพง ขอหยุดพักดีกว่า

ร้านแจ่วฮ้อนชื่อดังประกาศปิดร้านชั่วคราว เจ้าของร้านเผยไม่อยากขึ้นราคาเพราะทุกวันนี้อะไรๆก็แพง ขอหยุดพักดีกว่าถือว่าเป็นการพักผ่อนและปรับปรุงร้าน โดยไม่ได้ต้องการที่จะประชดใคร

เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 18 ม.ค. 2565 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง หลังพบว่ามีการติดป้ายประกาศบริเวณด้านหน้าหน้าปากซอยอดุลยาราม ริมถนนมิตรภาพ เขตเทศบาลนครขอนแก่น โดมีข้อความระบุว่า “หมูแพง!! ขอเวลาทำใจแป๊บ แจ่วฮ้อนอภิรมย์ปิดร้านชั่วคราว 18-24 มกราคม 2565” ซึ่งเมือ่ไปถึงพบว่าร้านที่ทำการปิดป้ายดังกล่าวคือร้านแจ่วฮ้อนอภิรมย์ซึ่งตั้งอยู่ในซอยห่างจากป้ายไม่ถึง 100 เมตร โดยที่หน้าร้านก็มีป้ายที่มีข้อควาลักษณะดังกล่าวติดอยู่เช่นกัน

นายวิวัฒน์ กิตติโรจนเสถียร อายุ 48 ปี บ้านเลขที่ 43/72 ซอยอดุลยาราม ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น เจ้าของร้านแจ่วฮ้อนอภิรมย์ กล่าวว่า การติดป้ายประกาศดังกล่าวมีสาเหตุและปัจจัยหลักมาจากเรื่องหมูแพง ซึ่งก่อนที่จะตัดสินใจปิดร้านชั่วคราวและปิดป้ายประกาศนั้น ได้ตระเวนหาร้านค้าส่งเนื้อหมูที่มีราคาที่ไม่แพงมากแต่ก็หาไม่พบ ประกอบกับทางร้านมีความตั้งใจว่าจะไม่ปรับราคาขึ้นเพราะส่วนใหญ่แล้วถ้าปรับราคาขึ้นแล้วจะไม่ค่อยปรับลง การปรับราคาแต่ละครั้งต้องทำเมนูใหม่หรือหาอะไรมาเพิ่มเติม ที่ผ่านมาร้านได้ติดตามสถานการณ์และดูแนวโน้มราคาหมู มาอย่างต่อเนื่องว่าราคาจะสูงขึ้นอีกถึงเมื่อไหร่

” ราคาหมูต้นทุนนปัจจุบันถามว่ายังรับได้หรือไม่ทางร้านยังพอรับได้เพราะจริงแล้วธุรกิจร้านแจ่วฮ้อนเป็นธุรกิจเสริม เพราะร้านเน้นในเรื่องของตัวน้ำจิ้ม เราขายน้ำจิ้มเพื่อให้ลูกค้าได้ชิมและซื้อน้ำจิ้มเรากลับไปด้วยเพราะฉะนั้นธุรกิจทำร้านแจ่วฮ้อน กำไรไม่ได้เยอะ สามารถที่จะดูแลพนักงาน และจ่ายค่าเช่าก็ถือว่าอยู่ได้แล้ว แต่หากหมูแพงให้ร้านมาลดปริมาณลง เรื่องนี้เราก็คิด แต่ประเด็นก็คือ ให้คงราคาจำหน่ายเดิม และให้ปริมาณที่ลดลงลูกค้าจะรู้สึกว่าได้น้อยลง หรือกาปปรับขึ้นราคาจำหน่ายอีก 20-30% แต่ประเด็นคือจะไม่จบแค่นั้นถ้าเราขอปรับขึ้นราคาค่าแรงก็ต้องตามมาอีกสุดท้ายถ้าไม่ขึ้นราคาก็ลดปริมาณลง “

นายวิวัฒน์ กล่าวต่ออีกว่า ร้านมีแหล่งที่มามาเสนอราคาเนื้อหมูจำนวนมาก บางร้านราคาถูกแต่คุณภาพเนื้อหมูไม่ได้ บางร้านราคาถูกจริง แต่อาจจะเป็นชิ้นส่วนหมูที่ไม่สวย บางร้านเสนอเป็นเศษหมู ซึ่งก็จะส่งผลต่อวัตถุดิบที่ร้านเน้นหนักในเรื่องของคุณภาพ และปริมาณที่ดีมา ดังนั้นหากเน้นของถูกและลดคุณภาพลงต้องคิดดีๆ เนื่องจากลูกค้าจ่ายเงินให้ ก็ต้องเน้นการให้บริการที่มีคุณภาพ ซึ่งถือเป็นหัวใจหลักของร้าน ดังนั้นการตัดสินใจในการติดป้าย ปิดร้านชั่วคราวระหว่างวันที่ 18-24 ม.ค. หรือ ประมาณ 1 สัปดาห์ เรามองในมุมบวกว่าเป็นการหยุดพักของร้าน ให้พนักงานได้หยุดพักผ่อน และถือโอกาสปรับปรุงร้านไปในตัว อย่างไรก็ตามยืนยันว่าที่ขึ้นป้ายแบบนี้ไม่ได้ต้องการที่จะประชดใดๆ เพราะสถานการณ์เป็นแบบนี้จริงๆ ทุกคนก็รู้ดี หลายคนก็ยังคงคิดว่าพนักงานที่้ร้านติดโควิดหรือไม่ถึงต้องทแบบนี้ แต่ด้วยสถานการณ์ของทุกอย่างขึ้นราคาและเป็นสถานการณ์ที่ทุกคนทราบดี จึงขอปิดชั่วคราวไปก่อนจะดีกว่า