วันจันทร์, 20 มีนาคม 2566

ประธานคณะกรรมาธิการการศึกษา วุฒิสภา ตรวจเยี่ยม การบริการฉีดวัคซีนโควิด-19 นักเรียน เตรียมพร้อมสำหรับ การเปิดภาคเรียน 1 พ.ย.นี้

   โรงพยาบาลร้อยเอ็ด  บริการฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้กับนักเรียน อายุ 12-17 ปี 11 เดือน ระหว่างวันที่ 9 – 15 ตุลาคม 2564 เพื่อลดอัตราการป่วยหนักและเสียชีวิตจากการติดเชื้อ เป้าหมายในการฉีดวันนี้ (10 ต.ค.64) 4,017 คน จะแร่งฉีดให้ทันตามตารางเวลาที่กำหนด เพื่อให้นักเรียนมีความปลอดภัยและสามารถเปิดเรียน   ได้อย่างมั่นใจ ควบคู่กับมาตรการควบคุมโรคภายใต้การพิจารณาของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด

   10 ต.ค.64  ดร. ตวง อันทะไชย ประธานคณะกรรมาธิการการศึกษา วุฒิสภา  พร้อมด้วย ดร.อดุลย์ศักดิ์ บุญเอนก ผอ.สพม.รอ นายเทิดทูน สุจารี ผู้อำนวยการโรงเรียนสตรีศึกษา นายภูวนาท คำพมัย ผู้อำนวยการโรงเรียนขัติยะวงษา  ได้เดินทางมาตรวจเยี่ยม ให้กำลังใจนักเรียน บุคลากรทางการแพทย์  การบริการฉีดวัคซีนโควิด-19 ของโรงพยาบาลร้อยเอ็ด สำหรับนักเรียน อายุ 12-17 ปี 11 เดือน ในอำเภอเมืองร้อยเอ็ด เข็มแรกไฟเซอร์ (Pfizer) ตามนโยบายของกระทรวงสาธารณสุข เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับ การเปิดภาคเรียนใหม่ โดยกำหนดฉีดวัคซีน ระหว่างวันที่ 9 – 15 ตุลาคม 2564  และเปิดwalk in สำหรับผู้ปกครองเพื่อมารับวัคซีนพร้อมบุตรหลานด้วย ณ อาคารศูนย์ประชุมใหญ่และนิทรรศการ โรงแรมเพชรรัชต์การ์เด้น จ.ร้อยเอ็ด

  ดร. ตวง อันทะไชย ประธานคณะกรรมาธิการการศึกษา วุฒิสภา  กล่าวว่า สำหรับวันนี้ได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจนักเรียน  บุคลากรทางการแพทย์  ในการบริการฉีดวัคซีนในวันนี้ ซึ่งความเป็นจริงแล้วปัญหาของเชื้อไวรัสโควิด – 19 จะให้หายไปเลยคงเป็นเรื่องอยาก เราต้องปรับตัว อยู่กับมันให้ได้สิ่งแรกที่เราจะต้องทำคือเราต้องฉีดวัคซีนเพื่อเป็นภูมิคุ้มกันไม่ใช่เฉพาะนักเรียนจำเป็นจะต้องฉีดกันครบทั้งครอบครัว และในวันนี้มีผู้บริหารการศึกษาเข้ามาสังเกตการณ์และให้กำลังใจกับนักเรียนจึงได้พูดคุยสอบถามถึงประเด็นปัญหาที่จะเกิดขึ้นในการที่จะเปิดภาคเรียนใหม่  อีกเรื่องที่หน้าห่วงสำหรับเรื่องรถโดยสารขนส่งของนักเรียนในการที่จะเบียดเสียดกันในการขึ้นรถแม้นจะบริหารจัดการห้องเรียนด้วยระยะห่างแต่ถ้าการเดินทางยังเกิดปัญหาในเรื่องของรถโดยสารอยู่ต้องหาทางปรับแก้ให้ได้

ดร.อดุลย์ศักดิ์ บุญเอนก ผอ.สพม. เปิดเผยว่า  ทางสังคม และผู้ปกครองเป็นห่วงในเรื่องของการวัดผลประเมินผลการเรียนที่จะเกิดขึ้นกับบุตรหลานว่าจะเป็นอย่างไรในการเลื่อนชั้น หรือในการให้เกรดนักเรียนทางสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาร้อยเอ็ด ได้สนองนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการ ในการจัดการเรียนการสอนในช่วงโควิด – 19 ให้ทางโรงเรียนมีการวัดผลประเมินผลหลายๆรูปแบบ หลายวิธี  การเรียนก็หลากหลายวิธีสำหรับจังหวัดร้อยเอ็ดไม่ได้ทำการเรียนการสอนในห้องเรียนโดยมากจะใช้ในการเรียนการสอนโดยวิธีแบบออนไลน์และให้งาน  ดังนั้นทุกโรงเรียนถ้ามีการซ่อมเสริมให้ซ่อมเสริมในช่วงเวลาระหว่างการเรียนไม่ให้ซ่อมเสริมหลังจากเกรดออกแล้ว ดังนั้นผลการเรียนจะไม่มีศูนย์ไม่มีรอ ส่วนการเปิดภาคเรียนที่ 2 วันที่1 พ.ย. 64 จะได้เปิดทำการสอนในห้องเรียนหรือไม่ ก็ต้องฟังจากประกาศจังหวัด

นางอุไรพรณ์ ทิดจันทึก หัวหน้าศูนย์สุขภาพชุมชนเมืองโรงพยาบาลร้อยเอ็ด  กล่าวว่า หัวใจสำคัญของการฉีดวัคซีนไม่ใช่เฉพาะนักเรียนเท่านั้นผู้ปกครองและคนในครอบครัวทั้งหมดถือว่าเป็นสิ่งสำคัญเช่นเดียวกันถ้าเกิดว่านักเรียนฉีดไปผู้ปกครองหรือคนในครอบครัวยังไม่ฉีดก็อาจจะเกิดคัตเตอร์ในเรื่องของการแพร่เชื้ออีกได้ก็จะทำให้กลับมาในแบบเดิมในเรื่องของการเปิดเรียนก็จะปิดไปก็จะทำให้เกิดการเรียนการสอนแบบออนไลน์เช่นเดิม จึงอยากจะเชิญชวนให้ทางผู้ปกครองและทุกๆคนในครอบครัวมาฉีดวัคซีนกันครบทุกคนจะได้มีภูมิคุ้มกันพร้อมกันทั้งครอบครัว

////////////

โชติกา   ทวนชัยภูมิ /ภาพ/ข่าว

0956628047