
ภายใต้การอำนวยการ พล.ต.ต เอกราช ลิ้มสังกาศ ผบก.ทล. พ.ต.อ.อนุรัตน์ ฉิมทิม ผกก4 บก.ทล.พ.ต.ท.มนตรี รักชาติ สว.สทล.1กก4ทล.ร้อยเอ็ด แถลงข่าวการจับกุมยาเสพติดให้โทษ(กัญชา)วันนี้ ๑๙ มิ.ย. ๖๔ เมื่อ เวลา ๐๒.๓๐ น ที่หน่วยบริการประชาชนตำรวจทางหลวงสมเด็จ รถวิทยุ ๔๑๐๕ มี ด.ต.ธนากร มอไธสง และ ด.ต.วุฒิชัย ภูงามนิล ผย.หมู่ ส.ทล.๑ กก.๔ บก.ทล. ได้ร่วมกันจับกุม นายอัยการ เครือคำ อายุ ๒๙ ปี เลขบัตรประชาชน ๑๔๗๐๔๐๐๑๔๕๕๕๘ บ้านเลขที่ ๒๔๓/๘๑ หมู่ที่ ๖ ต.ทุ่งสงขลา อ.ศรีราชา จว.ชลบุรี พร้อมด้วยของกลาง
.ยาเสพติดให้โทษประเภท ๕ (กัญชา) รวมจำนวน ๘ กระสอบ รวมจำนวนกัญชาทั้งหมด ๓๐๐ ก้อน น้ำหนักประมาณก้อนละ ๑ กิโลกรัม น้ำหนักรวมทั้งสิ้น ๓๐๐ กิโลกรัม.รถยนต์เก๋งแวน ยี่ห้อ เชฟโรเลต รุ่น OPTRA สีบรอนด์ แผ่นป้ายทะเบียน กว-837 ชลบุรี โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อ ไอโฟน ๗ หมายเลขโทรศัพท์ ๐๙ ๗๐๘๕ ๑๕๖๓
โดยกล่าวหาว่า – มียาเสพติดให้โทษประเภท ๕ (กัญฃา)ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฏหมาย
จับกุมได้ที่ ทล.๒๑๐๑ กม.๒๐-๒๑ ต.นาคู อ.นาคู จว.กาฬสินธุ์ ตามวันเวลาดังกล่าวข้างต้นชุดจับกุม.สกัดกั้นยาเสพติดได้รับคำสั่งจากผู้บังคับบัญชาให้ออกปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่รับผิดชอบ โดยรับแจ้งจากสายลับว่าจะมีรถยนต์เก๋งแวน ยี่ห้อ เชฟโรเลต รุ่น OPTRA สีบรอนด์ แผ่นป้ายทะเบียน กว-๘๓๗ ชลบุรี จะวิ่งมาจากทาง อ.สร้างค้อ จว.สกลนคร มุ่งหน้าไป อ.สมเด็จจ.กาฬสินธุ์
จนท.ชุดจับกุมจึงได้วางแผนไปสกัดกั้นตามเส้นทางดังกล่าว พอถึงเวลาประมาณ ๐๒.๐๐ น. ได้พบรถยนต์เก๋งยี่ห้อมิตซูบิชิ สีขาว จำทะเบียนไม่ได้ และได้ส่งสัญญาณเรียกให้หยุด รถยนต์คันดังกล่าวจึงได้หยุดรถ และได้สอบถามว่ามาจากไหนและจะไปไหน รับแจ้งว่าเดินทางมาจาก จว.สกลนคร จะเดินทางไปทำงานที่ กทม. หลังจากนั้นได้มีรถยนต์วิ่งมาแล้วหยุดรถห่างไปประมาณ ๒๐๐ เมตร จนท.ชุดจับกุมจึงได้ขับรถวิทยุตรวจการณ์ หมายเลขข้าง ๔๑๐๕ เพื่อที่จะไปสอบถามตรวจสอบ แต่รถยนต์เก๋งแวน ยี่ห้อ เชฟโรเลต รุ่น OPTRA สีบรอนด์ นป้ายทะเบียน กว-๘๓๗ ชลบุรี(ทราบยี่ห้อ ทะเบียนภายหลัง) แต่รถยนต์คันดังกล่าวได้ขับหลบหนี ไปตามเส้นทางตามถนนทางหลวงหมายเลข ๒๑๓ มุ่งหน้าไปยัง อ.สมเด็จ จว.กาฬสินธุ์ พอถึงสี่แยก อ.สมเด็จ จว.กาฬสินธุ์ ได้เลี้ยวซ้ายไปตามถนนทางหลวงหมายเลข ๑๒ มุ่งหน้าไปทาง อ.ห้วยผึ้ง จว.กาฬสินธุ์ พอถึง แยก อ.ห้วยผึ้ง จว.กาฬสินธุ์ ได้ขับรถเลี้ยวซ้ายไปตามถนนทางหลวงหมายเลข ๒๑๐๑ มุ่งหน้าไปทาง อ.นาคู จว.กาฬสินธุ์ จึงได้ประสานการปฏิบัติกับตำรวจ สภ.นาคู ภ.จว.กาฬสินธุ์ และชุด ปส.ภ.จว.กาฬสินธุ์ ให้ช่วยสกัดจับรถยนต์คันดังกล่าว และรถยนต์คันดังกล่าวได้หยุดรถบริเวณถนน ทล.๒๑๐๑ กม.๒๐-๒๑ ต.นาคู อ.นาคู จว.กาฬสินธุ์ จึงได้ร่วมกันตรวจสอบรถยนต์คันดังกล่าว ทราบชื่อภายหลังคือนายอัยการ เครือคำ เป็นผู้ขับขี่ จนท.ชุดจับกุมจึงได้ขอทำการตรวจค้นบุคคลและยานพาหนะ ก่อนทำการตรวจค้น จนท.ชุดจับกุมได้แสดงความบริสุทธิ์ให้ดูจนเป็นที่พอใจแล้ว ผลการตรวจค้นตัวบุคคลไม่พบสิ่งของผิดกฎหมาย และผลการตรวจค้นยานพาหนะ พบยาเสพติดให้โทษประเภท ๕ (กัญชา) รวมจำนวน ๘ กระสอบ บรรจุในกระสอบสีดำและห่อหุ้มด้วยพลาสติกใสมีเทปกาวติดพันไว้อีกชั้นหนึ่ง จำนวนกัญชาทั้งหมด ๓๐๐ ก้อน น้ำหนักประมาณก้อนละ ๑ กิโลกรัม น้ำหนักรวมทั้งสิ้น ๓๐๐ กิโลกรัม สอบถามนายอัยการ เครือคำ ยอมรับว่าเป็นยาเสพติดให้โทษประเภท ๕ (กัญชา)จริง แต่ไม่ใช่ของตน ตนเป็นเพียงแค่ผู้รับจ้าง ซึ่งได้รับการว่าจ้างจากนายกร (ไม่ทราบชื่อ-นามสกุลจริง) โดยใช้ชื่อเฟสบุ๊คว่าราชสีห์ตัวจริง โดยได้รับค่าว่าจ้างเป็นเงินจำนวน ๒๐,๐๐๐ บาท (สองหมื่นบาทถ้วน) และจะได้รับค่าว่าจ้างจำนวนดังกล่าวหลังจากเสร็จงานแล้ว จนท.ชุดจับกุม จึงได้นำตัวพร้อมของกลาง ส่ง พงส.สภ.นาคู ภ.จว.กาฬสินธุ์ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไปทำทุกอย่างด้วยสำนึกเพราะเราคือตำรวจทางหลวง”ร้อยเอ็ด
ภาพ_ข่าว/ภัสสะ บุญธรรม.รายงาน.










